จำนวนผู้เข้าชมวันนี้

วันพุธที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2562

ททท.สำนักงานสุรินทร์ ต้อนรับคาราวานอีซูซุบุกอีสานใต้ !!! กับโครงการ"วันธรรมดาน่าเที่ยว"@สุรินทร์-ศรีสะเกษ

วันที่ 20 มีนาคม 2562 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานสุรินทร์ ได้ต้อนรับคณะคาราวานอีซูซุที่เดินทางมาท่องเที่ยวยังอีสานใต้ ภายใต้โครงการ"วันธรรมดาน่าเที่ยว@สุรินทร์-ศรีสะเกษ" โดยมีกำหนดระยะเวลาการเดินทางทั้งสิ้น 5 วัน 4 คืน ตั้งแต่วันที่ 19-23 มีนาคม 2562  วัตถุประสงค์ของกิจกรรมเพื่ิอส่งเสริมภาพลักษณ์และเดินทางมาท่องเที่ยวในสถานที่สำคัญต่างๆของจังหวัดสุรินทร์และศรีสะเกษ ในช่วงเช้าหลังรับประทานอาหารเช้าเสร็จสิ้น คณะคาราวานอีซูซุมุ่งสู่อ.เขวาสินรินทร์ เป็นสถานที่แรกเพื่อ


เยี่ยมชมชุมชนผลิตเครื่องเงินที่มีชื่อเสียงของจังหวัดสุรินทร์ คณะคาราวานอีซูซุได้แวะเยี่ยมชมและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องเงินของร้านดาเครื่องเงิน หินสี สำหรับงานหัตถกรรมเครื่องเงินของหมู่บ้านเครื่องเงิน ต.เขวาสินรินทร์ ได้จัดตั้ง"กลุ่มหัตถกรรมเครื่องเงินบ้านโชค" ที่สร้างความโดดเด่นในเรื่องคงเอกลักษณ์ กรรมวิธีโบราณผสานกับการทำประเกือม หรือ ประคำในภาษากลาง ด้วยวัตถุดิบเงิน 60% สื่อสารภาพลักษณ์ผ่านการประดิษฐ์ลวดลายต่างๆจำนวน 13 ลาย คือ ขจร มะลิ ดอกปลึด 3 ชั้น เอกปลึด ตังโอ๋  ตังโอ 3 ชั้นระเวยิ่ง  ทานตะวัน รวงผึ้ง  รังแตน รำหอกโปรง และลายรำหอก ซึ่งทำยากที่สุด 






เนื่องจากเป็นลายที่มีความสลับซับซ้อนและมีราคาสูง ในขณะที่ลายไข่แมงดารับสั่งทำบ่อยที่สุด เพราะลวดลายสวยรวมไปถึงการผลิตลูกประคำเงิน  ที่เป็นเอกลักษณ์ของหมู่บ้าน เรียกกันว่า ลูกปะเกือม นำมาทำเป็นเครื่องประดับของสุภาพสตรีที่สวยงาม หลังจากคณะคาราวานอีซูซุได้เสร็จสิ้นจากการแวะเยี่ยมชมและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องเงินเพื่อสวมใส่และเป็นของฝากเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เวลา 10.30 น.คณะคาราวานอีซูซุ ได้เดินทางต่อไปยัง"ศูนย์คชศึกษา"บ้านตากลาง อ.ท่าตูม เพื่อชมการแสดงของช้าง สำหรับ"ศูนย์คชศึกษา" หรือ หมู่บ้านช้าง บ้านตากลาง เป็นสถานที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมวิถีความเป็นอยู่ ความผูกพัน ของคนในชุมชนและช้าง รวมทั้งประเพณี และวัฒนธรรมที่น่าชื่นชมอย่างใกล้ชิด ชาวบ้านตากลาง แต่ละครัวเรือนจะมีช้างที่เลี้ยงไว้อาศัยอยู่รวมกัน จนช้างที่พวกตนเลี้ยงไว้เปรียบ






เสมือนเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของตน ก่อให้เกิดสายใยความผูกพันที่แน่นเฟ้นขึ้น ระหว่างคนกับช้าง ณ บ้านตากลาง จ. สุรินทร์ ได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านช้างเลี้ยงใหญ่ที่สุดในโลก ชาวบ้านตากลาง ดั้งเดิมเป็น ชาวส่วย (กูย) หรือ กวย ที่มีความชำนาญในการคล้องช้างป่า ฝึกหัดช้าง และเลี้ยงช้าง ส่วนมากต้องเดินทางไปคล้องช้างบริเวณชายแดนต่อเขตประเทศกัมพูชาประชาธิปไตย ปัจจุบันสภาวะการเมืองระหว่างประเทศทำให้ชาวบ้านตากลาง ไม่สามารถไปคล้องช้าง เช่นแต่ก่อนได้ แต่ชาวบ้านตากลางยังคงเลี้ยงช้าง และฝึกช้างเพื่อไปร่วมแสดงในงานช้างของจังหวัดทุกปี ชมการแสดงช้างเสร็จสิ้นคณะคาราวานอีซูซุได้เดินทางต่อไปยัง"วัดป่าอาเจียง"เพื่อกราบขอพรและร่วมรับประทานอาหาร โดยได้รับการต้อนรับ






จากชาวบ้านชุนชนบ้านหนองบัว ที่ได้จัดอาหารพื้นบ้านไว้ต้อนรับคณะคารวานอีซูซุ และในเวลา 13.00 น.คณะคารวานอีซูซุ ได้เดินทางต่อไปยังหมู่บ้านท่าสว่าง ชุมชนผ้าไหมที่มีชื่อเสียงของจังหวัดสุรินทร์ สำหรับ"บ้านท่าสว่าง" หมู่ที่ 1 ต.ท่าสว่าง อ.เมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์ เป็นหนึ่งหมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยวของจังหวัดสุรินทร์ บ้านท่าสว่างเดิมชื่อบ้านเตรี๊ยะ เป็นภาษาพื้นบ้าน (เขมร) คำว่าเตรี๊ยะ เป็นชื่อพันธุ์ไม้ชนิดหนึ่ง ภาษาไทยว่าต้นชาด บรรพบุรุษของชาวบ้านเตรี๊ยะ ได้อพยพมาจากบ้านระเภาร์ ซึ่งเป็นหมู่บ้านเก่าแก่ห่างจากบ้านเตรี๊ยะไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 5 กิโลเมตร ในปี พ.ศ. 2485 ได้รวมหมู่บ้านเตรี๊ยะกับหมู่บ้านอื่นๆ เป็นตำบลท่าสว่าง และบ้านเตรี๊ยะ ก็ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็นบ้าน






ท่าสว่างตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ความงามแห่งอัตลักษณ์ชุมชนในปี 2553 บ้านท่าสว่าง ได้รับคัดเลือกให้เป็นหมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยวเชิงหัตถกรรมผ้าไหม แห่งเดียวของประเทศ โดยกรมการพัฒนาชุมชนกรมพัฒนาชุมชนได้ดำเนินงานโครงการหมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยว เพื่อพัฒนาหมู่บ้านที่มีจุดเด่น และมีเอกลักษณ์ ให้มีความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยว เป็นการเพิ่มรายได้ให้ประชาชนใน


หมู่บ้านจากบริการด้านท่องเที่ยว ผลิตภัณฑ์เด่น"ผ้าไหมยกทอง 1,460 ตะกอ" หลังจากเสร็จสิ้นในการเยี่ยมชมคณะคาราวานอีซูซุ ได้เดินทางกลับที่พัก เพื่อเตรียมตัวร่วมรับประทานอาหารในค่ำคืนนี้ โดยมีการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)สำนักงานสุรินทร์ เป็นเจ้าภาพเลี้ยงต้อนรับในครั้งนี้