หัวหน้าส่วนราชการต่างๆของจังหวัดของทั้งสองจังหวัดเสร็จสิ้น นายประภัสสร์ มาลากาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดประเด็นข้อหารือและกรอบความร่วมมือด้านเศรษฐกิจการค้าบริเวณชายแดน-กัมพูชา ณ จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม-โอร์เสม็ด จังหวัดสุรินทร์ สถิติการส่งออกและนำเข้า และการค้าตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ผ่านจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ในปี 2560 เปรียบเทียบกับปี 2561 ยอดนำเข้าและส่งออก 952.75 ล้านบาท ยอดส่งออก 2,349.00 ล้านบาท ดุลการค้า 1,396.25 ล้านบาท และปี 2561 ยอดส่งออก 3,444.87 ล้านบาท ยอดนำเข้า 2,142.62 ล้านบาท
ดุลการค้า 1,302.25 ล้านบาท ประเภทสินค้าส่งออก-นำเข้า การค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ผ่านจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม มีสินค้าส่งออกที่สำคัญได้แก่ เครื่องดื่มชาเขียว น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง เครื่องดื่มนมยูเอสที นมถัวเหลือง อาหารแช่แข็ง อาหารกระป๋อง ลูกชิ้นแช่แข็ง เครื่องดื่มน้ำผลไม้ และสินค้านำเข้าที่สำคัญได้แก่ มันสัมปะหลัง(หัวมันสด) มันสัมปะหลัง(สับตากแห้ง) มะม่วงสด เม็ดพลาสติก(โอนย้านภายในประเทศ) เมล็ดถั่วเหลือง ความร่วมมือด้านการศึกษา ปัจจุบันได้มีนักศึกษาจากประเทศกัมพูชาเดินทางมาศึกษาในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะจังหวัดสุรินทร์ มีนักศึกษาชาวกัมพูชาศึกษาอยู่ใน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน จำนวนทั้งสิ้น 30 คน กำลังศึกษาอยู่ใน
ระดับปริญาตรีและระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง(ปวส.)
- ระดับประกาศนียบัตรปริญาตรีชั้นสูง(ปวส.)ทุนมูลนิธิ KAPE จำนวน 2 คน
- ระดับปริญญาตรี สนับสนุนโครงการถวายทุนแด่องค์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบนมราชกุมารี เพื่อเป็นทุนการศึกษาแก่นักศึกษาชาวกัมพูชา ระดับปริญญาตรี จำนวน 7 คน
- ทุน มทร.อีสาน วข.จำนวน 2 คน
- ทุนส่วนตัว จำนวน 19 คน
มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ มีนักศึกษาชาวกัมพูชา จำนวน 3 คน ศึกษาระดับปริญาโท เป็นทุนสนับสนุนโครงการถวายทุนแด่องค์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบนมราชกุมารี
วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีสุรินทร์ มีนักศึกษาชาวกัมพูชา จำนวน 13 คน ศึกษาในระดับปริญญาตรี หลักสูตรพยาบาลศาตร์บัณฑิต สนับสนุนโครงการถวายทุนแด่องค์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบนมราชกุมารี
ด้านสาธารณสุขมีการพบปะกันระหว่างหน่วยงานสาธารณะสุขในระดับพื้นที่ และจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาสัมพันธ์ต่อกัน สร้างช่องทางในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารด้านสุขภาพระหว่างกัน โดยจัดทำบัญชีผู้ประสานงานและผู้รับรายงานโรค/สายด่วน (Hotline)ในระดับต่างๆเพื่อใช้ติดต่อและแก้ไขปัญหาและควบคุมที่เกิดขึ้นได้อย่างทั้นที มีการตรวจสอบผู้ป่วยดรคติดต่อที่ต้องรายงานโรคตาม IHR (Internationl Health Requlation) และด่านควบคุมโรคของแต่ละฝ่ายโดยให้อำนาจในการกักบริเวณ (quarantine) ตามระยะเวลาที่กำหนด การอบรมอาสาสมัครสาธารณสุขตามแนวชายแดนที่ติดต่อกัน หรือชุมชนพักพิงขนาดใหญ่ เพื่อเฝ้าระวังและรับทราบข้อมูลข่าวสารด้านสุขภาพจากเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย พัฒนา
ศักยภาพเจ้าหน้าที่สารธารณสุขทั้งสองฝ่ายในลักษณะโครงการความช่วยเหลือแบบโรงพยาบาลพี่-น้อง (Twin Hospital) และปัญหาการแพร่กระจ่ายของโรค เนื่องจากปัจุบันชาวกัมพูชาจะเข้ามารับการรักษาในโรงพยาบาลของจังหวัดสุรินทร์และซื้อสิ้นค้าตามห้างสรรพสินค้าต่างๆเป็นจำนวนมาก จีงมีปัญหาเรื่องโรคติดต่อโดยเฉพาะ "โรควัณโรค"ซึ่งเป็นดรคติดต่อทางอากาศ เนื่องจากฝ่ายไทยไม่มีเครื่องมือคัดกรอง ณ บริเวณจุดผ่านแดนและโรคดังกล่าวไม่สามารรถสังเกตุอาการได้ ด้านการท่องที่ยว นางสาวธมลวรรณ เจริญวงศ์พิสิฐ ผอ.ททท.สำนักงานสุรินทร์ กล่าว การท่องเที่ยวถือเป็นหัวใจสำคัญกับเศรษฐกิจ และเป็นนโยบายการขับเคลื่อนสำคัญของรัฐบาล ซึ่งสนับสนุนการท่องเที่ยวเพื่อพลักดันเศรษฐกิจให้
เกิดการซึ้อและการใช้จ่าย สำหรับจังหวัดสุรินทร์ได้สนับสนุนการท่องเที่ยว และได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงทั้งสองประเทศ อันจะทำให้เกิดให้ประชาชนมีอาชีพ เพิ่มรายได้ซึ่งจะส่งผลดีกับเศรษฐกิจในท้องถิ่นและตามแนวชายแดนของทั้งสองประเทศ เช่น เดือนพฤศจิกายน 2561 จังหวัดสุรินทร์โดยสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสุรินทร์ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุรินทร์ อำเภอกาบเชิง และภาคเอกชนได้ร่วมกันจัดโครงการ"ปั่นวันเดียว เที่ยวสองแผ่นดิน"ขึ้น โดยกำหนดเส้นทางการปั่นจักยานจากจุดผ่านแดนช่องจอม-แหล่งท่องเที่ยวละลุ อำเภอกรุง
สำโรง จังหวัดอุดรมีชัย เพื่อเป็นการสนับสนุนและส่งเสริมการท่องเที่ยวรวมไปถึงการต่อยอดให้มีการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศ และจากการได้จัดกิจกรรมร่วมกันแสดงให้เห็นถึงความมีความสัมพันธไมตรีที่ดีต่อกันที่สามารถต่อยอดในการทำกิจกรรมอื่นๆต่อไปในอนาคต และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุรินทร์ จัดกิจกรรมกระตุ้นให้ชาวกัมพูชามาท่องเที่ยวที่จังหวัดสุรินทร์ กับกิจกรรม"ไทยแลนต์ช๊อปปิ้งแอนต์ไลนิ้งพาราไดร์ กิน ช๊อป สะดวก สุข ทั้งสุรินทร์"ซึ่งจัดไปในช่วงเดือนธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งมีชาวกัมพูชาเดินทางมาร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก การท่องเที่ยวเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ในระดับพื้นที่
- ปี 2560 ได้จัดกิจกรรมการเดินแบบผ้าไหมสองแผ่นดิน ณ ศูนย์การค้าโอท็อป ตลาดการค้าชายแดนช่องจอม โดยมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ นายอำเภอกาบเชิง และนางสาวเนี๊ยะกมล ปลัดอาวุโสอำเภออัลลองเวง ราชอาณาจักรกัมพูชา พร้อมทั้งตัวแทนหน่วยงานราชการของไทยและกัมพูชา ร่วมเดินแบบผ้าไหม
.
- ปี 2561 ได้จัดกิจกรรมสภากาแฟสองแผ่นดิน ณ บริเวณลานด้านข้างหน่วยประสานงานชายแดนประจำพื้นที่ 2 ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้แก่ ส่วนราชการ/องค์กรเอกชน/ภาคธุรกิจระหว่างอำเภอกาบเชิง และอำเภอกรุงสำโรง ราชอาณาจักรกัมพูชา เป็นการพูดคุยแลกเปลี่ยน ประสานงานกันอย่างไม่เป็นทางการ
- การจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี ถวายเป็นพระราชกุศล เสริมสิริมงคลทั่วไทย ส่งท้ายปีเก่าวิถีไทย ต้อนรับปีใหม่ วิธีธรรม พุทธศักราช 2561
หลังจากเสร็จสิ้นการประชุมร่วม นายประภัสสร์ มาลากาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ พร้อมคณะรองผู้ว่าราชการอุดรมีชัยและคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัดกัมปงธมและข้าราชการทุกภาคส่วนที่ร่วมประชุมถ่ายภาพร่วมกันบนเวที และเลี้ยงรับรองให้แด่คณะรองผู้ว่าราชการอุดรมีชัยและคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัดกัมปงธม เวลา 19.00 น.