จำนวนผู้เข้าชมวันนี้

วันอังคารที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

ครบรอบ 9 ปี ตลาดนัดสีเขียว ต.แนงมุด "ตลาดนัดแห่งความสุข ก้าวสู่ตลาดแห่งความไว้ใจ"

วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 17.00 น นายสุทธิโรจน์ เจริญธนะศักดิ์ นายอำเภอกาบเชิง ได้เป็นประธานเปิดงานครบรอบ 9 ปี ตลาดนัดสีเขียว ณ ต.แนงมุด อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ บรรยายกาศภายในงานเต็มไปด้วยประชาชนและผู้บริโภคที่ให้ความสนใจสินค้าการเกษตรที่นำมาจัดจำหน่ายภายในงาน รวมไปถึงการจัดนิทรรศการจากส่วนราชการในท้องถิ่น เช่น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลแนงมุด มาให้บริการตรวจ


เช็ดหาสารเคมีตกค้างในเลือดให้กับผู้ที่เข้าร่วมงาน ตัวแทนจากโรงเรียนต่างๆ และมูลนิธิพัฒนาอีสานซึ่งเป็นองค์ร่วมจัดและร่วมก่อตั้งตลาดนัดสีเขียนมาตั้งแต่ต้น นายสุทธิโรจน์ เจริญธนะศักดิ์ นายอำเภอกาบเชิง กล่าวว่า สำหรับประวัติความเป็นมาของ"ตลาดนัดสีเขียว" ต.แนงมุด เริ่มก่อตั้งเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2553 ณ ลานหน้าองค์การบริหารส่วนตำบลแนงมุด โดยผลผลิตที่นำมาจำหน่ายจะเป็นพืชผัก, ผลผลิตที่ผลิตเองภายในครัวเรือนหรือหาได้จากป่าแหล่งน้ำธรรมชาติ โดยครอบครัวที่นำผลผลิตมา




จำหน่ายจะเป็นครอบครัวต้นแบบที่ได้รับการคัดเลือกจาก โครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การดำเนินกิจกรรม จำหน่ายผลผลิตที่มีคุณภาพ เช่น ผักปลอดสาร, ไก่บ้านอินทรีย์, ข้าวอินทรีย์, ผักธรรมชาติ แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับหน่วยงานและองค์กรต่างๆ ทั้งในและนอกชุมชน กระบวนการผลิต ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ในการบำรุงพืชผัก ใช้สารไล่แมลงแทนยาห่าแมลง, ใช้กระบวนการเกษตรธรรมชาติ เพื่อให้เกิดการเกื้อกูลกัน ผลผลิตได้แก่ ผักบุ้ง, โหรพา, นางลัก, ต้นหอม, ผักชี, ยี่หร่า, สาระแน่, หน่อไม้, หน่อไม้ฝรั่ง, ฟักทอง, แตงวา, ฯลฯ ประเภทสัตว์น้ำได้แก่ ปลานิล, ปลาดุก, ปลา




ตะเพียน, ปลาธรรมชาติต่างๆ และผลไม้ ได้แก่ ขนุน, แตงไทย, แตงโม, มะพร้าวน้าหอม, ลำไย, มะม่วง ในตลาดนัดสีเขียว นั้นได้หาช่องทางการตลาด จำหน่ายในพื้นที่ตลาดนัดสีเขียว ต.แนงมุด และนออกพื้นที่ ได้ระบบมาตรฐานความปลอดภัยของผลผลิตทางการเกษตร ยังไม่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานใดแต่ใช้วิธีการรับรองกันเองภายในกลุ่มโดยการออกตรวจเยี่ยมแปลงที่ผลิต และกำลังดำเนินงานเพื่อขอรับรองมาตรฐาน จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ระบบการผลิต และการจัดการกลุ่ม มีการบันทึก




การผลิตตั้งแต่การเพาะปลูก, ปัญหาอุปสรรคในการผลิต แนวทางแก้ไขและมีการตรวจเยี่ยมแปลงและหาแนวทางเพิ่มผลผลิตและคุณภาพของสินค้า ระบบการกระจายสินค้า ส่งเสริมให้มีการเพิ่มสมาชิกกลุ่มภายตำบลและให้มีสินค้าที่หลากหลาย เพิ่มจุดจำหน่ายสินค้าทั้งในและนอกพื้นที่ โดยใช้สื่อที่สามารถเข้าผู้บริโภคได้ ระบบเชื่อมโยงผู้บริโภค ใช้การประชาสัมพันธ์ต่างๆ เช่น ในการประชุมหน่วยงานประจำ






เดือน, ทำแผ่นพับ, ป้ายประชาสัมพันธ์, ผ่านเว็บไซต์, แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับองค์อื่นๆ ระบบสื่อสารและประชาสัมพันธ์ ทำแผ่นพับ, ประชาสัมพันธ์ โดยใช้สื่อเช่น วิทยุชุมชน, เว็บไซต์, ประชุมร่วมกับหน่วยงานต่างๆทำป้ายโฆษณา สุดท้ายก็ขอเชิญประชาชนทั้วไปได้เห็นความสำคัญเรื่องของสิ่งแวดล้อม และอยากให้เกษตรกรลดการใช้สารเคมี เพราะจะส่งผลต่อสิ่งแวดและสุขภาพ ถ้าหันมาทำเกษตรอินทรีย์รับรองว่าอนาคตเกษตรกรไทยสดใสแน่นอน