จำนวนผู้เข้าชมวันนี้

วันเสาร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานสุรินทร์ ชี้ !!! 1 ในสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดสุรินทร์ที่น่าไปในปี 62 "สุสานช้าง" วัดป่าอาเจียง

“สุสานช้าง”ภายในวัดป่าอาเจียง ต.กระโพ อ.ท่าตูม ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่ง โดยมีการรวบรวมกระดูกช้างที่ล้มตายทั้งในพื้นที่และต่างจังหวัดนับร้อยเชือก มาเก็บใว้ที่นี่ จนได้รับการขนานนามว่า เป็นสุสานช้างที่รวมกระดูกช้างไว้มากที่สุด ที่นี่จะมีการขุดกระดูกช้างออกมาจากหลุมที่ฝังไว้ตามสถานที่ต่างๆ ก่อนจะนำมาบรรจุไว้ในหลุม มีการสร้างเป็นรูปหมวกทนักรบทหารโบราณ


ที่ปลายยอดแหลมเป็นดอกบัว จากปูนซีเมนต์ครอบบรรจุกระดูกช้างไว้ภายในอีกที พร้อมเขียนระบุชื่อของช้างที่ล้มตายไว้อีกด้วย ซึ่งถูกสร้างขึ้นเรียงรายเป็นระเบียบอย่างสวยงาม สำหรับหลุมที่สร้างเป็นรูปหมวกนักรบทหารโบราณนั้น เพื่อยกย่องและเชิดชูเกียรติให้ช้างไทย ที่เป็นสัตว์ใหญ่ คู่บ้านคู่เมืองไทยมาตั้งแต่อดีต เคยเคียงข้างกับกองทัพในการสู้รบกับข้าศึกที่รุกราน เพื่อกู้ชาติบ้านเมือง และเป็นสัตว์คู่พระบารมีพระมหากษัตริย์ไทย สร้างคุณประโยชน์ให้แก่แผ่นดินไทยมาอย่างมากมายตั้งแต่อดีต เมื่อช้าง




ตายจึงทำเป็นหมวกนักรบทหารโบราณ เพื่อยกย่องและเชิดชูเกียรติให้ช้างไทย นอกจากนี้ยังมี “ศาลาเอราวัณ” ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ศึกษา เรื่องราวช้างในพระไตรปิฏก และเรื่องราวของช้างใน จ.สุรินทร์ ให้เห็นถึงวัฒนธรรมความผูกพันของชาวกูยคนเลี้ยงช้าง วิถีชีวิตของคนกับช้าง โดยศาลาเอราวัณมีการสร้างประติมากรรมลายนูนปูนปั้นเป็นรูปช้างหลากหลายแบบและหลายขนาด รอบศาลาเอราวัณ ที่มีความสูงกว่า 30 เมตรได้อย่างสวยงามอลังการ ถึงแม้จะยังสร้างไม่เสร็จก็ตาม เพราะทางวัดยังคงขาดงบประมาณอีกจำนวนมาก แต่นักท่องเที่ยวก็สามารถเข้าไปชมและสัมผัสความสวยงาม รวมทั้ง




บันทึกภาพไว้เป็นที่ระลึกได้ ทุกวันนี้จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าชมโดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาวและในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ หลังจากที่นักท่องเที่ยวได้ชมการแสดงความสามารถของช้างภายในศูนย์คชศึกษาเสร็จแล้ว ก็สามารถเดินทางมาเที่ยวชมสุสานช้างและศาลาเอราวัณได้ ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกล มีพื้นที่ติดกับศูนย์คชศึกษา หมู่บ้านช้างตากลางนั่นเอง ดร.พระครูสมุห์หาญ ปัญญาธโร เจ้าอาวาสวัดป่าอาเจียง กล่าวว่า สุสานช้างแห่งนี้คือที่เก็บและรวบรวมกระดูกของช้าง โดยทั่วไป เมื่อช้างเสียชีวิตตรงไหน เจ้าของช้างก็ฝังตรงนั้นกระจายอยู่ทั่วไป ซึ่งบ้านเราเป็นหมู่บ้านช้าง หากวันหนึ่งเกิดไม่มีช้างเหลืออยู่




จะได้มีหลักฐานยืนยันว่า จุดนี้เป็นหมู่บ้านช้าง ให้ลูกหลานได้ศึกษาเรียนรู้ จึงได้มีการจัดเก็บรวบรวมกระดูกช้างที่พอจะหารวบรวมมาได้ จึงเป็นที่มาของสุสานช้าง และเพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณช้างตามคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนาที่มีหลักฐานปรากฏไว้อยู่แล้ว ปัจจุบันมีกระดูกช้างที่รวบรวมไว้ที่นี่จำนวน 111 เชือก ที่กำลังดำเนินการฝังอีกประมาณ 20-30 เชือก รอการขุดกระดูกออกมาเพื่อบรรจุเก็บในสุสานช้าง และยังมีช้างที่เสียชีวิตในพื้นที่ต่างอำเภออีกหลายเชือกที่ยังไม่ได้นำมารวมกันกันไว้ที่สุสานแห่งนี้ ซึ่งเจ้าของได้มอบให้ แต่ทางวัดเองก็ยังมีปัญหาจำกัดเรื่องของงบประมาณดำเนินการ ซึ่งก็ได้แต่ทยอย


ดำเนินการไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัดที่ช้างสุรินทร์ไปอยู่ ในอนาคตถ้าเรางดสร้างสิ่งถาวรวัตถุทางพระพุทธศาสนาภายในวัดแล้ว จะดำเนินการไปเก็บกระดูกช้างของชาวสุรินทร์ที่กระจัดกระจายตามจังหวัดต่างๆมารวมกันไว้ให้หมดนั้นคือเป้าหมายต่อไป สำหรับกิจกรรมภายในวัดนอกจากจะมี"สุสานช้าง"เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาเยียมชมแล้ว ภายในวัดป่าอาเจียงยังมีการกิจกรรมที่น่าสนใจสำหรับผู้ใจบุญที่ต้องการทำสังฆทาน ในวัดป่าอาเจียงก็มี"การถวายสังฆทานบนหลังช้าง"ซึ่งทางวัดจะมีช้างและชุดสังฆทานไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่สนใจ นางสาวธมลวรรณ เจริญวงศ์พิสิฐ ผอ.ททท.สำนักงานสุรินทร์กล่าวว่า สำหรับในปี 2562 นี้ การท่องเที่ยวแห่ง




ประเทศไทย(ททท.)สำนักงานสุรินทร์ ก็ได้ส่งเสริมและสนับสนุนการท่องเที่ยวในจังหวัดสุรินทรือย่างเต็มที ซึ่งในขณะนี้เราได้เปิดตัวสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆในจังหวัดสุรินทร์ให้สื่อมวลชนได้นำไปเผยแพร่หลายสถานที่ อธิเช่น ทมอโรย สถานที่ประทับลี้ภัยของ สมเด็จพระนโรดมสีหุนุ กษัตริย์แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ผามะนาว ผาจำเนียง ทะเลสาบทุ่งกุลา วัดช้างหมอบ และวัดสดาปวง ไปชมจันผาร้อยปี รุกขมรดก ซึ่งล้วนเป็นสถานที่ที่น่าสนใจทั้งสิ้น และจังหวัดสุรินทร์ยังมีสินค้าและผลิตภัณฑ์มากมาย




อธิ ข้าวหอมมะลิ ชุมพลบุรี ผ้าไหมซอมป๊วดโฮล บ้านไทร อ.จารพัตร หรือจะเป็นของฝากของอ.ศีขรภูมิ อย่าง กาละแม ตราปราสาทเดียว ซึ่งล้วนเป็นของดีของจังหวัดสุรินทร์ทั้งสิ้น ปี 2562 นี้ ททท.สำนักงานสุรินทร์ ก็ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาสัมผัสความงดงามของจังหวัดสุรินทร์ รับรองว่านักท่องเที่ยวจะต้องประทับใจกลับไปค่ะ สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจจะเดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดสุรินทร์และต้องการทราบกิจกรรมการท่องเที่ยวต่างๆของจังหวัดสุรินทร์สามารถติดต่อได้ที่ ททท.สำนักงานสุรินทร์ โทร. 0-4451-4447-8 โทรสาร 0-4451-8530 e-mail : tatsurin@tat.or.th http://www.tourismthailand.org/surin