พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เรื่องการถวายสัตย์ปฏิญาณขึ้นมา ซึ่งมติของที่ประชุมร่วม วิปฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านได้ตกลงกันร่วมกันกับประธานสภาผู้แทนราษฎรไว้แล้วว่าจะไม่มีการอภิปรายในประเด็นนี้ ที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์และเป็นเรื่องก่อนการเข้ามาทำหน้าที่
ของพล.อ.ประยุทธ์ โดยได้โต้เถียงกับผู้ทำหน้าที่ประธานสภาคือ นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ที่ทำหน้าที่ในขณะนั้น จนเกิดการประท้วงชุลมุนวุ่นวาย ทำให้สภาเสียเวลา "ผมเสียดายความเป็นอดีตผบตร.เสียดายที่คนเชิดชูว่าเป็น วีระบุรุษนาแก ต่อไปผมและประชาชนคง
เรียก"โฆฆะบุรุษนาเก๊" มากกว่า ซึ่งเห็นพฤติกรรมวันนี้ พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ ทำหน้าที่ฝ่ายค้านได้ต่ำกว่ามาตรฐานมาก ไม่ได้มีข้อมูลใหม่ๆมาเลยว่า รัฐบาลและนายกฯ ทำหน้าที่บริหารประเทศในรอบ 7 เดือนที่ผ่านมาอะไรบกพร่องที่ทำให้ฝ่ายค้านไม่ไว้วางใจ แต่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ กลับพยายามจะใช้ข้อมูลเก่าๆ
ที่ท่านนายกฯและรองนายกรัฐมนตรี ดร.วิษณุ เครืองาม ชี้แจงมาก่อนหน้านี้เรียบร้อยและประเด็นนี้ศาลรัฐธรรมนูญก็ตีตกมาแล้ว กลับดื้อรั้นไม่ยอมฟังการวินิจฉัยของประธานสภาการใช้พฤติกรรมเดิมๆของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เช่น ส่งเสียงดังและข่มขู่ แบบนักเลง กล่าวท้าทายท่านประธานสภาว่า"แล้วเจอกัน
ข้างนอก"เป็นนิสัยที่ก้าวร้าวขู่อาฆาตมาดร้ายท่านประธาน จนท่านประธานสภาฯนายศุภชัย ทนไม่ไหวจึงตอบกลับไปว่า "ผมนี่สหายแสง ท่านไม่ต้องห่วงผมไม่เคยกลัวท่านเสรี วีระบุรุษนาแก"จนเกิดบรรยากาศที่ประชุมสภาตรึงเครียด ไม่ควรเกิดขึ้นกับสภาอันทรงเกียรติแห่งนี้ ท่านประธานสภาฯต้องสั่งให้
พลตอ.เสรีพิสุทธิ์ฯออกนอกห้องประชุมสภาฯถือว่าการทำหน้าที่ของพล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ นั้น"สอบตก"เป็นเยี่ยงอย่างที่ไม่ดี ทำลายบรรยากาศการประชุมสภาฯ ที่เรียบร้อยมาตั้งแต่เช้า ก็ต้องขออภัยต่อพี่น้องประชาชนที่ติดตามการเมืองที่มีนักการเมืองเยี่ยงนี้ในสภาฯ หากพล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ มาทำหน้าที่เพื่อป่วน
สภาเฉยๆ ก็ไม่สมควรได้เวลาในการอภิปราย เพราะตลอดเวลา40กว่านาที ประชาชนที่รับชมการอภิปรายไม่ได้ประโยชน์คุ้มค่าอะไรเลยสักนิดเสียดายเวลาของประชาชนแทนที่จะได้ฟังการอภิปรายและชี้แจงที่เป็นประโยชน์เรื่องการพัฒนาประเทศเรื่องปากท้องพี่น้องประชาชนแต่กลับเห็นแต่ความก้าวร้าวของ
นักการเมืองคนนี้ ยิ่งจะทำให้ประชาชนเบื่อหน่ายนักการเมืองเช่นนี้มากยิ่งขึ้นไปอีกครับ"นายสุภรณ์ กล่าว