วันที่ 11 สิงหาคม 2561 เวลา 11.00 น.การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้นำคณะสื่อมวลชนและนักท่องเที่ยวจากส่วนกลางไปทำกิจกรรม "เก๋ายกก๊วน ชวนเที่ยวไทย" ไปภาคเหนือ ที่วัดสันป่ายาง ที่มีความงดงามทางสถาปัติยกรรมแบบล้านนา โดยได้จัดรถรางให้กับคณะสื่อมวลชนและนักท่องเที่ยวจากส่วนกลางไว้ในเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ
ซึ่งสร้างสีสันให้กับการทำกิจกรรมได้เป็นอย่างดี สำหรับ"วัดสันป่ายางหลวง" ตั้งอยู่ในหมู่บ้านสันป่ายางหลวงตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน เป็นวัดที่ติด 1 ใน 5 วัดที่สวยที่สุด ในประเทศไทย ภายในวัดสันป่ายางหลวงมีการแกะสลักลวดลายปูนปั้นไว้อย่างวิจิตรงดงาม โดยเฉพาะวิหารพระโขงเขียว มีการแกะสลักละลายปูนปั้นที่สร้างไว้ในพระวิหารอย่างละเอียด
และวิจิตรสวยงามยิ่งแม้กระทั่งมุมหน้าจั่ว เชิงเพดานหลังคาด้านหน้า ด้านข้าง และ ด้านหลัง รวมทั้งเสาพระวิหารก็จะมีลายแกะสลักลงรักปิดทองไว้ แม้ถึงบ้านประตู-หน้าต่าง ทุกบาน วิหารพระโขงเขียว สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2548 เป็นที่ประดิษฐานพระหยกเขียวซึ่งนำมาจากแม่น้ำโขง พระนามเต็มของ พระเขียว คือ พระพุทธอัญญรัตน มหานทีศรีหริภุญชัย ซึ่งเหมือนพระพุทธศีศากยโคดม องค์ปัจจุบัน และมี
พระพุทธรูปองค์ใหญ่ ด้านล่างพระโขงเขียว คือ พระพุทธเมตไตรจำลองมาจากพุทธคยาตอนที่พระพุทธเจ้าโคตรมะบรรลุธรรมเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า วิหารพระเขียวโขงเมื่อมองจากด้านหน้าจะมีหลังคา 5 ชั้น มีช่อฟ้า 5 ตัว หมายถึง พระเจ้า 5 พระองค์ ด้านหลังอีก 3 หมายถึง ศีล สมาธิ ปัญญา หมายถึงการปฏิบัติของพระพุทธเจ้าเพื่อเดินเข้าสู่พระนิพพาน หน้า 5 รวมหลัง 3 รวมเป็น 8 หมายถึง ต้อง
ปฏิบัติตาม ทางสายกลาง คือ มรรค 8 ได้ธรรมมัชฌิมา ทางสายกลางคือ 9 เป็นโลกุตตรธรรม ตรงกลางหลังคามี เรือหงษ์ และฉัตร หมายถึง โลกุตตรธรรม หรือ นิพพาน ความสงบดับเย็นจากกิเลศตัณหา ด้านล่างมีรูปปั้นผางประทีป เปรียบเหมือนรังกาและกาเผือกนอนในรัง รูปพรหมสี่หน้านั่งอยู่บนหลังกา หมายถึง กำเนิดตำนานผางประทีป นอกจากจะมีวิหารที่สวยงามแล้ว ยังมีพระพุทธรูปหินหยกขาว ปาง
ปรินิพพานที่สวยงามอีกด้วย ตามประวัติวัดสันป่ายางหลวง เดิมชื่อ “วัดขอมลำโพง” สร้างขึ้นในปี พ.ศ.1074 โดยชาวบ้านที่พร้อมใจกันสร้างขึ้นเพื่อถวายไว้ในบวรพุทธศาสนา วัดสันป่ายางหลวงนับเป็นวัดแห่งแรกในพุทธศาสนาของแคว้นล้านนา หลังจากสร้างเสร็จจึงได้มีการอัญเชิญเอาพระอัฐิธาตุ ของพระอัครสาวก ของพระ พุทธองค์คือพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ มาบรรจุไว้ ณ ที่เจดีย์ของวัดสันป่ายางหลวง ต่อมา ในยุคเสื่อมของพุทธศาสนา วัดสันป่ายางหลวงก็กลายเป็นวัดร้าง จนมาถึงสมัยของ
พระนางจามเทวี ปฐมกษัตริย์ของเมืองลำพูน จึงได้มีการฟื้นฟูวัดสันป่ายางหลวงด้วยการสร้าง ถาวรวัตถุ และมีการกำหนดเขตธรณีสงฆ์ขึ้นใหม่ พร้อมกับประทานชื่อวัดใหม่ว่า “วัดอาพัฒนารามป่าไม้ยางหลวง” หรือเรียกง่ายๆ ว่า “วัดสันป่ายางหลวง” เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพสถานที่ตั้ง เพราะในสมัยก่อน บริเวณดังกล่าวมีต้นยางขึ้นอย่างหนาทึบ วัดนี้ยังใช้เป็นสถานที่ถวายพระเพลิงศพพระนางจามเทวีอีกด้วย หลังจากเยี่ยมชมเสร็จ ททท.นำคณะสื่อมวลชนและนักท่องเที่ยวจากส่วนกลาง เดินทางต่อไปรับทานอาหารเที่ยงต่อไป
.
มิสเตอร์ที