ประเทศอยู่เสมอ ข่าวเหล่านี้ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ไปทั่วโลกถึงสถานการณ์การทารุณกรรมสัตว์ในประเทศไทย จนทำให้นานาอารยประเทศถือเป็นข้ออ้างในการกีดกันทางการค้าระหว่างประเทศ จากเหตุผลดังกล่าวทำให้มีกลุ่มบุคคลที่มีความรักและเมตตาต่อสัตว์ เกิดความตั้งใจจริง ในอันที่จะหามาตรการยับยั้งป้องกันการทารุณกรรมสัตว์เหล่านั้น จึงได้ร่วมกันก่อตั้งสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่ง
.
ประเทศไทย หรือ TSPCA (Thai Society for the Prevention of Cruelty to Animals) ขึ้น เมื่อวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2537 และพ.ศ. 2540 สมาคมฯได้รับอนุมัติให้เข้าร่วมเป็นภาคีสมาชิกกับราชสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศอังกฤษ ซึ่งมีภาคีสมาชิกทั่วโลก เพื่อร่วมกันรณรงค์ป้องกันและยุติการทารุณสัตว์ทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศไทย อีกทั้งสมาคมฯ ยังเป็นองค์กรด้านการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและ
.
อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ จดทะเบียนเมื่อ พ.ศ. 2540 ตามมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2535 และเป็นองค์กรจัดสวัสดิภาพสัตว์ตามพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 เมื่อ พ.ศ.2558 ปัจจุบันมีนายธีระพงศ์ ปังศรีวงศ์ เป็นนายกสมาคมฯ ตลอดเวลา 26 ปี ที่ผ่านมา สมาคมฯ ได้ดำเนินการรณรงค์หาทางป้องกันและแก้ไขปัญหา
การทารุณสัตว์โดยสันติวิธี ด้วยการดำเนินงานในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งในด้านการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ และในด้านการเสริมสร้างจิตสำนึกแห่งความเมตตาให้แก่เยาวชนและสาธารณชนโดยทั่วไป ให้มีส่วนร่วมในการสอดส่องป้องกันการทารุณสัตว์ และมีบทบาทในการรณรงค์แก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิสัตว์ ด้วยการแก้ปัญหาตามแนวทางสันติวิธี สำหรับกิจกรรมความสำเร็จที่
.
เป็นรูปธรรม อาทิ เช่น ด้านกฎหมาย สมาคมฯ เป็นผู้นำภาคประชาชนในการเสนอและผลักดัน พระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ.2557 จนสำเร็จ ด้วยเจตนารมณ์ตั้งแต่วันแรกของการก่อตั้งสมาคมฯ เพื่อต้องการให้มีกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันการทารุณกรรมและการพัฒนาการจัดสวัสดิภาพสัตว์ให้ดี ดังเช่นนานาอารยประเทศ ซึ่งจะเห็นเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนเมื่อ
.
นายสวรรค์ แสงบัลลังค์ เลขาธิการสมาคมฯ ในขณะนั้น ได้รวบรวมรายชื่อประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจำนวน 12,000 รายชื่อ ยื่นเสนอต่อรัฐสภาเพื่อขอให้มีกฎหมาย จึงนับว่าเป็นร่างกฎหมายภาคประชาชนเพียงร่างเดียวที่ผ่านรัฐสภา และผู้มีส่วนร่วมสนับสนุนที่สำคัญที่สุด ประกอบด้วย องค์กรเครือข่ายภาคเอกชนที่เป็นพันธมิตร กรมปศุสัตว์และสภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และสภานิติบัญญัติแห่ง
.
ชาติ รวมทั้งประชาชนผู้รักสัตว์โดยทั่วไป ร่วมกันผลักดันกฎหมายฉบับดังกล่าวได้สำเร็จ อีกทั้งสมาคมฯ มีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในด้านต่าง ๆ อันเป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณชน ร่วมเป็นคณะกรรมการ อนุกรรมการ และคณะทำงานด้านต่าง ๆ ในการผลักดันกฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับและกฎหมายลำดับรองอีกหลายฉบับที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น ด้านการศึกษา สมาคมฯ ถือ
.
ม.มหิดล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นต้น สำหรับด้านกิจกรรมการรณรงค์ป้องกัน สมาคมฯ ได้ร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในการขอมติมหาเถรสมาคม ที่ 410/2561 ในการจัดทำหลักเกณฑ์ วิธีการ ในการปล่อยสัตว์ในวัด จนเป็นผลสำเร็จ โดยกำหนดให้เขตพื้นที่วัดเป็นเขตห้ามซื้อขาย และปล่อยสัตว์โดยไม่มีเหตุอันสมควร อีกทั้งสมาคมฯ ได้จัดทำภาพยนตร์สั้นรวมทั้งได้การจัดกิจกรรมรณรงค์
.
อื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น “ทำบุญ ไม่ทารุณสัตว์” “ปล่อยนก บุญหรือบาป?” และ “รักไม่ปล่อย” และยังได้ร่วมกับ สวนสัตว์และมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในการจัดกิจกรรมวันเด็ก “สัญญาไม่ทารุณสัตว์” ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 4 แล้ว ด้านการให้บริการหรือสงเคราะห์สัตว์เพื่อการป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัดิภาพสัตว์อย่างยั่งยืน ในปี 2562 ที่ผ่านมาสมาคมฯ ได้ จัดให้มีการติดตามข้อร้องเรียน จำนวน 89 เรื่อง และ
ลงพื้นที่ช่วยเหลือสัตว์ในกรณีต่าง ๆ จำนวน 18 ครั้ง ติดตามและแสดงความเห็นเกี่ยวกับข้อกฎหมาย Hot Issue ประเด็นเหตุการณ์เกี่ยวกับสัตว์ที่ประชาชนให้ความสนใจ จำนวน 29 เรื่อง รวมทั้งมีการสงเคราะห์สัตว์ตามบ้านหรือสถานพักพิงสัตว์ทั่วประเทศกว่า 25 แห่ง ซึ่งมีสัตว์จรจัด ประมาณ 5,416 ตัว แบ่งเป็นสุนัข 4,276 และแมว 1,140 ตัว โดยสมาคมฯ ได้สนับสนุน ข้าวสาร 13,255 กิโลกรัม อาหารสุนัขแบบเม็ด
จำนวน 1,586.85 กิโลกรัม อาหารสุนัขแบบกระป๋อง จำนวน 2,400 กระป๋อง เนื้อไก่ จำนวน 2,400 กิโลกรัม และช่วยเหลือด้านยาและเวชภัณฑ์อื่น ๆ สำหรับอาหารนั้น ส่วนหนึ่งเป็นการจัดซื้อจากเงินที่ผู้บริจาคร่วมสนับสนุนให้กับสมาคมฯ และส่วนหนึ่งมีองค์กรอื่นให้การสนับสนุนผ่านสมาคมฯ เช่น บริษัท เพอร์เฟค คอมพาเนียน กรุ๊ป จำกัด บริษัท เซนทรัล เจดี คอมเมิรซ์ จำกัด บริษัท คาร์กิลล์มีทส์
(ไทยแลนด์) จำกัด โรงเรียนนานาชาติไบร์ทสกายและสมาคมสงเคราะห์สัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นต้น ในด้านความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ สมาคมฯ จัดให้มีการสัมมนาเครือข่ายผู้รักสัตว์ขึ้นประจำทุกปี อย่างต่อเนื่องมากว่า 11 ครั้ง โดยเครือข่ายของสมาคมฯ มีทุกภูมิภาคของประเทศ กว่า 90 องค์กร เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ วิธีการทำงาน ปัญหา
และอุปสรรคต่าง ๆ ที่จะร่วมกันพัฒนาและสอดส่องป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ได้อย่างทันสถานการณ์ และสมาคมฯ ยังเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจรักสัตว์ เข้าร่วมกิจกรรมหรือเป็นสมาชิกและ “อาสาสมัครสวัสดิภาพสัตว์” ซึ่งมีเครือข่ายเกือบทุกจังหวัดในประเทศไทย ในส่วนด้านการอนุรักษ์และคุ้มครองธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของประเทศ นอกจากสมาคมฯ เป็นองค์กรด้านการคุ้มครองสิ่ง
แวดล้อมและอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติ ตามกฎหมายและยังได้ร่วมมือกับ องค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) ซึ่งมีภาคีเครือข่ายทั่วโลก ในการจัดกิจกรรมเกี่ยวกับการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ที่ผ่านมาสมาคมฯ โดย น.สพ.อลงกรณ์ มหรรณพ กรรมการสมาคมฯ นายสัตวแพทย์อาวุโสผู้เชี่ยวชาญเรื่องสัตว์ป่าและช้าง ได้ตรวจรักษาช้าง ที่ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ โดยไม่คิดค่า
.
ใช้จ่ายอย่างต่อเนื่องทุกเดือน สำหรับปี 2562 ได้ตรวจรักษาช้างทั้งสิ้นประมาณ 180 เชือก เป็นจำนวน 985 ครั้ง คิดเป็นมูลค่ากว่า 2,877,000 บาท และรองศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ปานเทพ รัตนากร อุปนายกสมาคมฯ ได้รับรางวัลระดับโลก "WORLD VETERINARY ASSOCIATION ANIMAL WELFARE AWARDS 2019" “สัตวแพทย์ไทย หนึ่งในสวัสดิภาพสัตว์โลก” อีกด้วย
.
สมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย (TSPCA) จะยังคงมุ่งมั่น ดำเนินการอย่างมีส่วนร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องตามแนวทางสันติวิธี โดยใช้กระบวนทางกฎหมายในการขับเคลื่อนการทำงานอย่างสร้างสรรค์เพื่อให้เกิดคุณค่า คุณธรรมและคุณประโยชน์เพื่อสังคมและประเทศชาติ ในการช่วยเหลือดูแลสรรพสัตว์น้อยใหญ่ไม่ให้ได้รับการทารุณกรรมอย่างไม่สมควรและพัฒนาสวัสดิภาพสัตว์ให้ยั่งยืนสืบต่อไป