(Sugar Rocket) และดาวเทียมขนาดเล็ก (Cansat) ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ผลปรากฏทีมจากโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุราภรณ์ราชวิทยาลัย จ.นครศรีธรรมราช คว้ารางวัลชนะเลิศไปครองพร้อมเงินรางวัล และร่วมไปดูงานการแข่งขัน Cansatระดับนานาชาติ ณ สหพันธรัฐรัสเซีย ต่อไป การผนึกกำลังครั้งสำคัญในการบูรณาการความร่วมมือระหว่าง 2 หน่วยงานที่มุ่งส่งเสริมความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนยีผ่านกิจกรรมการแข่งขัน "THAILAND CANSAT – ROCKET COMPETITION 2019"ชิงแชมป์ประเทศไทย เพื่อแข่งขันการประดิษฐ์จรวดประดิษฐ์ (Rocket)และดาวเทียมกระป๋อง (Cansat)
ในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายซึ่งจัดขึ้นในเดือนกรกฏาคม 2562 ที่ผ่านมา เพื่อคัดเลือกเยาวชนเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศโดยการแข่งขันในครั้งนี้มีเยาวชนที่สามารถนำเสนอภารกิจและการออกแบบจรวดประดิษฐ์ และดาวเทียมกระป๋องพิชิตใจทีมคณะกรรมการผ่านเข้ารอบ15 ทีม(1 ทีมประกอบด้วยเยาวชน 6 คน)แบ่งเป็นภาคกลางและภาคตะวันออก 8 ทีม, ภาคใต้ 4 ทีม, ภาคตะวันออกเฉียงเหลือ 3 ทีม โดยน้องๆ จะได้รับภารกิจพร้อมอุปกรณ์กลับไปลงมือประดิษฐ์คิดค้นด้วยฝีมือตนเองโดยมีระยะเวลา 1 เดือนในการเนรมิตเจ้า Cansat- Rocket ของตนเองเพื่อกลับมานำเสนอภารกิจอันท้าท้ายต่อหน้าคณะ
กรรมการผู้เชี่ยวชาญและทรงคุณวุฒิถึง 8 ท่านที่คอยซักถามกับคำถามสุดหิน ด้วยหลักวิชาการในตำราที่เรียนมากับหลักการปฏิบัติที่ต่างลงมือประดิษฐ์คิดค้น Rocket และ เจ้า Cansatจะเป็นไปได้แค่จินตนาการหรือสำเร็จภารกิจตามที่ใจทุ่มเททำมาเพื่อการแข่งขันในครั้งนี้ กิจกรรมวันแรกของการแข่งขัน (วันที่ 6 ก.ย. 62) เริ่มด้วยพิธีเปิดค่ายฯ โดย พลอากาศตรี ผศ.ดร.สุธี จันทรพันธุ์ รอง ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศและผู้ช่วยศาสตราจารย์ รวิน ระวิวงศ์ ผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ร่วมกันกล่าวเปิดการแข่งขัน หลังจากนั้นเป็นการชี้แจงรางวัลต่างๆ ที่มี
มากถึง 9 รางวัล โดยแบ่งเป็นรางวัลชนะเลิศ และรองชนะเลิศ อันดับที่ 1 และ 2 รวมถึงรางวัลในส่วนของ Cansatและ Rocket และทบทวนกฏกติการการแข่งขันที่ใช้ในการตัดสินร่วมกัน และเพื่อความปลอดภัยจำเป็นต้องมีการตรวจสอบความเรียบร้อยของจรวดประดิษฐ์ และเจ้าดาวเทียมกระป๋อง จากทีมเจ้าหน้าที่ทั้ง สทป. และ อพวช. ต่างช่วยกันอย่างขมักเขม่น หลังจากนั้นเปิดเวทีนำเสนอภารกิจที่ทีมเยาวชนคนเก่งได้เตรียมมานำเสนอต่อคณะกรรมการตัดสิน ที่ได้ฟังการนำเสนอแล้วทึ่งกับไอเดียอันบรรเจิด ในจินตนาการและความคิดของเยาวชนชั้นมัธยมปลายไม่แพ้ผู้ใหญ่กันเลยทีเดียว โดยเริ่มตั้งแต่
ทีมที่ 1 จนถึงทีมที่ 15 เรียกว่านำเสนอกันตั้งแต่เช้าจนถึงค่ำกันเลยทีเดียว กิจกรรมวันที่สองของการแข่งขัน (วันที่ 7 ก.ย. 62) เป็นการเดินทางโดยรถบัส จาก อพวช. ไปยังสนามฝึกใช้อาวุธทางอากาศชัยบาดาล จ.ลพบุรี พื้นที่สำหรับใช้ในการแข่งขัน"THAILAND CANSAT – ROCKET COMPETITION 2019" รอบชิงชนะเลิศ เพื่อทดสอบว่าจรวดประดิษฐ์และเจ้าดาวเทียม ที่เยาวชนเฝ้าฟูมฟักด้วยสติปัญญาและความสามารถจะสามารถทำภารกิจพิชิตใจกรรมการได้สำเร็จหรือไม่ โดยทุกทีมเข้าประจำกลุ่มและเริ่มการแข่งขันโดยในภาคเช้าเป็นการปล่อยดาวเทียมกระป๋อง (Cansat)
จากโดรนขนาดใหญ่บรรจุเจ้าดาวเทียมกระป๋องครั้งละ 3 ชุดทะยานขึ้นตามความสูงในภารกิจที่เยาวชนกำหนดจนเสร็จสิ้นเป็นกลุ่มสุดท้าย จากนั้นภาคบ่าย เป็นการทดสอบยิงจรวดประดิษฐ์ที่เยาวชนทุกทีมจะโหลดเจ้าดาวเทียมกระป๋องบรรจุในจรวดขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3 นิ้ว จำนวน 15 ชุด โดยมีทีมนักวิจัย สทป. ทำหน้าที่ประกอบจรวดชุดดินขับและยิงทดสอบ และวัดระยะความสูง เก็บคะแนนสูงสุดทั้งในส่วนของดาวเทียมกระป๋องและจรวดประดิษฐ์โดยใช้วิธีการยิงทดสอบครั้งละ 1 ลูก เรียกว่าความสนุก ความท้าทาย รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความเศร้าคละกันไปเลยในการแข่งขันในครั้งนี้ การทดสอบ
ดำเนินไปจนถึงช่วงเย็น น้องๆเยาวชนทุกทีมก็เดินทางกลับไปยังฐานที่มั่นที่ อพวช. เพื่อเตรียมทำ Present ในวันรุ่งขึ้น กิจกรรมวันสุดท้ายของการแข่งขัน (วันที่ 8 ก.ย. 62) เยาวชนทุกทีมต้องนำเสนอภารกิจหลังจากที่ได้ทำการทดสอบโดยนำผลที่ได้จัดทำเป็น Presentation นำเสนอต่อหน้าคณะกรรมการตัดสินอีกครั้ง ว่าภารกิจที่ทำการทดสอบสามารถทำได้ตามที่ตั้งใจไว้หรือไม่ รวมถึงเรียนรู้ข้อผิดพลาดอย่างไร และแนวทางการแก้ไขและปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นต้องทำอย่างไร ไม่น่าเชื่อว่าได้รับคำชื่นชนและเสียงปรมมือจากคณะกรรมการและผู้ที่รับฟังในการนำเสนออย่างมากมายซึ่งถือว่าเป็นประสบการณ์
ที่ยอดเยี่ยมของเยาวชนทุกทีมที่ผ่านเข้ารอบนี้ ต่อจากนั้นเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการตัดสินในการรวบรวมผลคะแนนที่ได้พิจารณาตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้ายของการแข่งขัน เริ่มต้นพิธีปิดการแข่งขัน "THAILAND CANSAT – ROCKET COMPETITION 2019" ด้วยการเปิดวิดีทัศน์ประมวลภาพกิจกรรม 3 วัน 2 คืน สร้างความประทับใจให้กับผู้เข้าร่วมพิธีเป็นอย่างมาก ต่อจากนั้นผู้บริหารจากทั้ง 2 หน่วยงานได้แก่ พลอากาศเอก ดร.ปรีชา ประดับมุข ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ และนางกรรณิการ์ เฉิน รองผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติร่วมกล่าวแสดงความยินดี
กับเยาวชนที่สามารถผ่านเข้ามาในรอบชิงชนะเลิศนี้ ก่อนร่วมกันลุ้นผลการตัดสินผลการแข่งขันที่มีเงินรางวัลร่วม 52,500 บาทและถ้วยเกียรติยศ โดยประกาศผลคะแนน ดังนี้
1. รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ทีม COSMOS โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย จ.นครศรีธรรมราช ได้รับเงินรางวัล มูลค่า 10,000 บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศ และเป็นตัวแทนประเทศไทยไปร่วมดูงานการแข่งขัน Cansatระดับนานาชาติ ณ สหพันธรัฐรัสเซีย
2. รางวัลรองชนะเลิศ อันดับที่ 1 ได้แก่ ทีม YSP CANSAT-ROCKET จากโรงเรียนยโสธรพิทยาคม จ.ยโสธรได้รับเงินรางวัล มูลค่า 7,500 บาท
3. รางวัลรองชนะเลิศ อันดับที่ 2 ได้แก่ ทีม E.S.D. ROCKET จากโรงเรียนอัสสัมชัญ จ.กรุงเทพ ได้รับเงินรางวัล มูลค่า 5,000 บาท
4. รางวัล The Best Mission Award ได้แก่ ทีม E E.S.D. ROCKETได้รับเงินรางวัล มูลค่า 5,000 บาท
5. รางวัล The Best Technique Award ได้แก่ ทีม COSMOS ได้รับเงินรางวัล มูลค่า 5,000 บาท
6. รางวัล The Best Presentation Award ได้แก่ ทีม CANSAT เปิดโลกก็เปลี่ยน จากโรงเรียนขอนแก่น วิทยายน จ.ขอนแก่นได้รับเงินรางวัล มูลค่า 5,000 บาท
7. รางวัล The Best Aerodynamics Design Award ได้รับเงินรางวัล มูลค่า 5,000 บาท
8. The Best Deployment Award ได้แก่ ทีม YSP CANSAT-ROCKET จากโรงเรียนยโสธรพิทยาคม จ.ยโสธรได้รับเงินรางวัล มูลค่า 5,000 บาท
9. รางวัล The Best Parachute Award ได้แก่ ทีม O.D.E. SAT จากโรงเรียนอัสสัมชัญ จ.กรุงเทพได้รับเงินรางวัล มูลค่า 5,000 บาท
สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (สทป.) และองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) เชื่อมั่นว่าหลังเสร็จสิ้นการแข่งขันเยาวชนทุกคนที่เข้าร่วมกิจกรรมจะสามารถเพิ่มพูนความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับจรวดประดิษฐ์ อวกาศ และดาวเทียมกระป๋องเพราะประสบการณ์ในครั้งนี้จะเป็นการจุดประกายความคิด สร้างแรงบันดาลใจที่ไม่สามารถหาได้จากในตำราหรือจากห้องเรียน อันจะนำไปสู่การต่อยอดสู่อาชีพนักวิจัยด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอวกาศในอนาคต ทั้งนี้การแข่งขัน "THAILAND CANSAT – ROCKET COMPETITION 2019" เกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของบุคลากร ทั้ง สทป. และอพวช. ที่ต่างทุ่มเทและตั้งใจช่วยกันทำให้กิจกรรมประสบสำเร็จลงด้วยดีตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้