จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยังส่งผลกระทบอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย ทำให้อุปกรณ์ป้องกันและทำความสะอาดต่าง ๆ เป็นสิ่งหายากและมีราคาสูงขึ้นต่อเนื่อง ในภาวะเช่นนี้ กิจกรรมหนึ่งซึ่งเป็นต้นแบบของการช่วยเหลือสังคมในช่วงวิกฤตจึงเกิดขึ้นโดย นางสาวมัญชุสา อุดม
วิทย์ กรรมการผู้จัดการผลิตภัณฑ์ SafetyClean ภายใต้บริษัทฟาร์มสุข(ประเทศไทย) จำกัด ได้นำทีมสู้วิกฤตโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง หลังจากเมื่อวันที่ 20 มีนาคม ที่ผ่านมา ทาง Safety Clean ได้เข้าทำความสะอาดพ่นฆ่าเชื้อ เพื่อคืนพื้นที่ความสะอาดให้กับสาธุชน ณ เสถียรธรรมสถาน เป็นแห่งแรก ก่อนนำทีม
งานเดินหน้าตอบแทนสังคม โดยเข้าทำความสะอาดพ่นฆ่าเชื้อให้กับอาคารสำนักงานศูนย์ปฏิบัติการ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว สุวรรณภูมิเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 และสร้างความเชื่อมั่นให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน รวมถึงนักท่องเที่ยวและประชาชนที่จำเป็นต้องเข้าใช้บริการในพื้นที่ โดยมีพล.ต.ตอังกูร คล้ายคลึง รอง ผบช.ทท. สำนักงานตำรวจท่องเที่ยวสุวรรณภูมิให้การต้อนรับ
พล.ต.ต อังกูร คล้ายคลึง กล่าวว่าบริษัท Safety Clean ซึ่งเป็นภาคเอกชนได้มองเห็นความสำคัญของข้าราชการตำรวจในกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ซึ่งมีหน้าที่ดูแลประชาชนและนักท่องเที่ยวในอาคารสำนักงานศูนย์ปฏิบัติการ โดยเรามีเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่อื่น ๆ ที่เข้ามาช่วยเหลือรวมแล้ว
ประมาณ 200 นาย กองบัญชาการแห่งนี้เป็นศูนย์บัญชาการสั่งการไปยังทั่วประเทศ จึงมีความสำคัญที่จะต้องดูแลเจ้าหน้าที่ฝ่ายอำนวยการที่อยู่ในกองบัญชาการให้มีความปลอดภัยที่สุดโดยทุกสัปดาห์เราจะมีการทำความสะอาดใหญ่ หรือ Big Cleaning Dayซึ่งครั้งนี้เราได้รับความช่วยเหลือจาก Safety Clean ที่
นำน้ำยาพ่นฆ่าเชื้อเข้ามาทำความสะอาดให้ ซึ่งเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับเจ้าหน้าที่ทุกนาย ที่ยังมีภารกิจในการดูแลประชาชนที่จำเป็นต้องเข้ามาในพื้นที่ เพราะแม้ในขณะนี้ก็ยังมีผู้ที่จำเป็นต้องเดินทางทั้งชาวต่างชาติและคนไทย รวมถึงส่วนที่พักอาศัยอยู่ในโรงแรม หรือรีสอร์ทต่าง ๆ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะ
เข้าไปตรวจตราทุกวัน “ในสถานการณ์เช่นนี้ ทางตำรวจท่องเที่ยวเราได้พยายามทำหน้าที่กันอย่างเต็มความสามารถ เพราะเราตระหนักเสมอว่าการช่วยคนได้หนึ่งคน หรือแก้ไขปัญหาในเรื่องใดหนึ่งได้นั่นหมายถึงว่าเราจะทำให้คนอีกหลายคนเขาไม่ต้องตกอยู่ในความเสี่ยงไปด้วย”รอง ผบช.ทท. สำนักงาน
ตำรวจท่องเที่ยวสุวรรณภูมิ กล่าวทางด้าน นางสาวมัญชุสา กล่าวถึงความตั้งใจในการทำกิจกรรมเดินหน้าพ่นฆ่าเชื้อ ว่าในส่วนของ Safety Clean ได้แบ่งการทำงานออกเป็นสองส่วน ใช้ชื่อว่า ‘Double Clean สะอาดสองเท่า’ เพราะพื้นผิวสัมผัสเป็นจุดที่ใกล้ชิดกับทุกคนที่สุด ฉะนั้นจึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญ
มากที่สุด โดยเฉพาะบริเวณพื้น ผิวสัมผัสของโต๊ะ เก้าอี้ รวมไปถึงทุกพื้นผิวที่คนต้องใช้มือสัมผัส ซึ่งSafety Clean จะให้ความสำคัญไม่น้อยไปกว่าการฉีดพ่นฆ่าเชื้อในอากาศ“สำหรับการดูแลตัวเองที่รัฐและทุกภาคส่วนได้ออกมารณรงค์เรื่องการรักษาความสะอาดSafety Clean อยากฝากพี่น้องประชาชนทุก
คนว่า การที่เราดูแลตัวเองเป็นอย่างดี จะเป็นการป้องกันทั้งตัวเราเองและบุคคลรอบข้าง ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องบอกว่าเมื่อเราได้รักษาความสะอาดเฉพาะบุคคลแล้วSafety Clean ถือว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ที่จะช่วยสร้างความมั่นใจว่าทุกคนจะได้รับความสะอาดปลอดเชื้อภายในที่อยู่อาศัยในช่วงเวลาเช่นนี้” นางสาว
มัญชุสากล่าว ทั้งนี้ SafetyCleanเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านการทำความสะอาดพ่นฆ่าเชื้อในอาคาร สถานที่ต่าง ๆ จากทีมงานและพนักงานผู้ให้บริการ พร้อมอุปกรณ์เทคโนโลยีที่ทันสมัย และผลิตภัณฑ์สำหรับทำความสะอาดพ่นฆ่าเชื้อได้มาตรฐานสูงสุดมีส่วนผสมจากธรรมชาติเป็นมิตรกับสิ่ง
แวดล้อม ให้ความปลอดภัยต่อมนุษย์ และมีประสิทธิภาพสูงในการกำจัดและฆ่าเชื้อโรค ไม่ว่าจะเป็นเชื้อแบคทีเรีย วัณโรค H1N1 ไข้หวัดใหญ่ มือเท้าปาก รวมทั้งเชื้อไวรัสโควิด-19ซึ่งได้การรับรองโดยสถาบันมาตรฐานสากล รวมถึงพนักงานให้บริการทำความสะอาดทุกคน ได้ผ่านการอบรมหลักการทำความ
สะอาดอย่างเข้มงวดนอกจากการให้บริการเชิงธุรกิจแล้ว ‘Safety Clean’ยังให้ความสำคัญและใส่ใจต่องานด้านสังคมผ่านกิจกรรม CSR ด้วยเช่นกัน โดยในช่วงที่ผ่านมา Safety Clean ได้มีกิจกรรมเข้าไปให้บริการทำความสะอาดเต็มรูปแบบ ในพื้นที่สาธารณะต่างๆ อาทิ สถานศึกษา วัด และสถานที่ราชการ เป็นต้น