จำนวนผู้เข้าชมวันนี้

วันเสาร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ททท.ภูมิภาค ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แถลงแผนปฎิบัติการส่งเสริมการตลาดและศักยภาพการท่องเที่ยว ภูมิภาค ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประจำปี 2562 "Cool Isan"

ททท.ภูมิภาค ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จัดการงานแถลงการแผนปฎิบัติการส่งเสริมการตลาดท่องเที่ยวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประจำปี 2562 ณ โรงแรมชัยภูมิปาร์ค จังหวัดชัยภูมิ โดยมีสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว สทน./ สนท./ สธทท./สทอ. / ATTA และ สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว รวมทั้งสื่อมวลชนทั้งส่วนกลางในพื้นที่ของ 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เดินทางมาร่วมงานกว่า 200 ท่าน 



นายสมชาย ชมภูน้อย ผอ.ททท.ภูมิภาค ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวว่า วันนี้ผมมาแถลงแผนการส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาค ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และบริการทางการท่องเที่ยวปี 62 ซึ่งเป็นหัวใจหลักของการกระตุ้นเศรษฐกิจ ตามนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการมุ่งเน้นส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อให้เกิดรายได้ ลดความเลื่อมล้ำอย่างยั่งยืน  ททท.ได้ผ่าแผนรายได้ท่องเที่ยวไทยปี 62 ตั้งเป้าที่ตัวเลข 3.41 ล้านล้านบาท เติบโตเพิ่ม 10% โครงการ ด้าน “เมืองรอง-ครีเอทีฟ-ดิจิทัล” ตอบโจทย์กระจายรายได้-ลดความเหลื่อมล้ำ สอดรับการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมนักท่องเที่ยวทั่วโลก





และ ททท.ได้จัดประชุมบูรณาการจัดทำแผนตลาดการท่องเที่ยว ประจำปี 2562 ตั้งแต่วันที่ 2-5 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยมีผู้บริหารทุกระดับและผู้อำนวยการสำนักงาน ททท.จากทุกภูมิภาคทรวม 68 สำนักงานมาร่วมระดมสมอง โดยตั้งเป้าหมายรายได้ภาคท่องเที่ยวไทยปี 2562 ไว้ที่ 3.41 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับปีนี้ แบ่งเป็นตลาดต่างประเทศ 2.29 ล้านล้านบาท และตลาดในประเทศวางเป้าหมายรายได้ 1.12 ล้านล้านบาท





ส่วนแนวทางในปีหน้า ททท.ภูมิภาค ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มุ่งแก้โจทย์ให้ภาคการท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือลดความเหลื่อมล้ำ และเป็นส่วนสำคัญของยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ให้มีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน สอดคล้องกับเป้าหมายให้ประชากรมีรายได้เฉลี่ยต่อคนไม่ต่ำกว่า 4.8 แสนบาทต่อปี รวมทั้งหนุนจีดีพีขยายตัวสูงกว่า 5% ต่อปี พร้อมทั้งผลักดันให้ประเทศไทยยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันติดอันดับ 1 ใน 20 ของโลกด้วยการ





เน้นพัฒนาทั้งซัพพลาย-ดีมานด์ สำหรับภาพรวมของยุทธศาสตร์นั้น จะมุ่งส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนด้วยการผลักดันให้สินค้าท่องเที่ยวในระดับท้องถิ่นได้รับความนิยม พร้อมพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทั้งใหม่และเก่า ด้วยการสร้างแม่เหล็กการท่องเที่ยวระดับโลกจาก 5 เซ็กเตอร์ ได้แก่ การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรม, ธุรกิจการท่องเที่ยว, อาหาร และสถานที่ท่องเที่ยวแบบเชื่อมโยงภูมิภาคตามยุทธศาสตร์ของชาติ





และการพัฒนาด้านซัพพลาย มี 3 กลยุทธ์หลัก คือ 1.go Thainess สร้างสรรค์สินค้าและกิจกรรมบนพื้นฐานวิถีไทย เพื่อสร้างรายได้อย่างทั่วถึงและเป็นธรรม 2.go sustainable มุ่งพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวสู่สากลอย่างยั่งยืนบนสมดุลทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับขีดความสามารถในการรองรับแต่ละพื้นที่ 3.go ecofriendly สร้างนักท่องเที่ยวที่เป็นมิตรและมีความรับผิดชอบ ไม่ใช่แค่สร้างการรับรู้ แต่ต้องมีส่วนร่วมมากขึ้น โดยเฉพาะมิติสิ่งแวดล้อม ขณะที่ด้านดีมานด์ปี 2562 ยังคงทำตลาดภายใต้แบรนด์ Amazing Thailand กระตุ้นให้นักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมายต่างๆ เกิดการเดินทางจริง เพื่อสร้างรายได้หมุนเวียนในประเทศ พร้อมปรับสัดส่วนนักท่องเที่ยวระหว่างเมืองหลักและเมืองรองให้สมดุลมากขึ้น ส่งเสริมการท่องเที่ยวในเมืองรองและพื้นที่รองในเมืองหลัก จุดกระแสให้คนไทยท่องเที่ยวแบบเท่ๆ ตามแบรนด์อะเมซิ่ง ไทยเท่



นอกจากนี้ ยังเตรียมทำ branding destination ในเร็วๆ นี้ และร่วมกับท้องถิ่นพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวอย่างสร้างสรรค์ พร้อมกำหนดเป้าหมายการท่องเที่ยวจากพฤติกรรมและความสนใจ เช่น อาหารถิ่น แหล่งท่องเที่ยวแบบมนุษย์สร้าง นำไปพัฒนาเป็นเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ ๆ “การทำงานของสำนักงาน ททท.ภูมิภาค ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอบโจทย์การสร้างรายได้แก่ชุมชนและท้องถิ่นจากแหล่ง






ท่องเที่ยวแบบ unseen, untold และ unseal (ยังไม่เคยเห็น, ยังไม่เคยเล่า และยังไม่เคยแกะกล่องมาก่อน) และต้องกำหนดตัวชี้วัดใหม่ให้เห็นว่าภาคการท่องเที่ยวสร้างรายได้ได้จริง ๆ ไม่ใช่แค่สร้างการรับรู้เท่านั้น โดยแต่ละสำนักงานจะต้องปั้นโครงการในปีงบฯ 2562 อย่างน้อยสำนักงานละ 1 โครงการ”
2.go more stories มุ่งสร้างและสะสมเรื่องราวด้านการท่องเที่ยวให้สอดรับกับแนวคิดการโปรโมตตัวหลักอย่างมิลเลียน เชดส์ ออฟ ไทยแลนด์ เพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางค้นหาเรื่องราวในแต่ละ





ท้องถิ่น และใช้เป็นวัตถุดิบทางความคิดในการสร้างสรรค์สินค้า 3.go equality เร่งปรับสมดุลการท่องเที่ยวในเชิงพื้นที่และเวลา เพื่อให้นักท่องเที่ยวเดินทางทั้งช่วงไฮซีซั่นและโลว์ซีซั่น เพิ่มอัตราการเข้าพักโรงแรมและที่พักในช่วงวันธรรมดา 4.go tourism for all สร้างโอกาสการเข้าถึงด้านการท่องเที่ยวแก่ทุกๆคน และ 5.go together ต้องการเห็นการทำงานแบบบูรณาการทั้งภายในและภายนอกองค์กร เร่งกระตุ้นนักท่องเที่ยวเดินทางจริง ผ่านแนวคิด Discover unique local experiences with million shades of Thailand กับ 5 แนวทาง ประกอบด้วย 1.go local เน้นส่งเสริมเมืองรอง ด้วยการเลือกพื้นที่





ที่มีศักยภาพและพร้อมขายจาก 20 จังหวัดภาคอีสาน โดยต้องการเห็น ททท.ภาคอีสาน เริ่มขายอย่างน้อย 1 เมืองรอง 2.go high-end มุ่งเพิ่มรายได้ต่อคน โดยในปี 2562 นี้ได้วางเป้าหมายเห็นตัวเลขการใช้จ่ายโตมากกว่า 4% ด้วยการเจาะนักท่องเที่ยวทุกกลุ่มและกลุ่มความสนใจเฉพาะ 3.go new customer มุ่งหาลูกค้าใหม่ๆ มากขึ้น เพราะที่ผ่านมานักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเดินทางซ้ำ 4.go low season ดึงนักท่องเที่ยววัยเก๋า ให้เดินทางท่องเที่ยวในช่วงโลว์ซีซั่นมากขึ้น และ 5.go digital 



ประยุกต์ใช้การตลาดด้านโซเชียลมากขึ้น ช่วงสุดท้าย นายสมชาย ชมภูน้อย ผอ.ภูมิภาค ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้กล่าวสรุปภาพรวมต่างๆ พร้อมแนะนำแหล่งท่องเที่ยวในภูมิภาค ภาคตะวันออกเฉียง ให้กับผู้ประกอบการ การท่องเที่ยวได้เข้าใจทิศทางและแผนการส่งเสริมการท่องเที่ยวในปี 62 ภายใต้ชื่อโครงการ อีสานแซ่บนัว "COOL I-San"