จำนวนผู้เข้าชมวันนี้

วันอาทิตย์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2561

"พระธาตุก่องข้าวน้อย"เส้นทางส่งเสริมการตลาดท่องเที่ยวภาคอีสาน “อีสานแซ่บนัว Cool Isan จากวิถีถิ่นสู่วิถีเทรนด์” พิชิต 20 จังหวัดภาคอีสาน

วันที่ 30 กันยายน 2561 เวลา 15.00 น.ขบวนคาราวานพิชิต 20 จังหวัดภาคอีสานได้เดินทางถึงยัง "ธาตุก่องข้าวน้อย"หรือที่นิยมเรียกกันว่า "พระธาตุก่องข้าวน้อย" ตั้งอยู่ในกลางทุ่งนาของบ้านตาดทอง ตำบลตาดทอง อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 9 กิโลเมตร ไปตามทางหลวง



แผ่นดินหมายเลข 23 (สายยโสธร-อุบลราชธานี) กิโลเมตรที่ 194 เลี้ยวซ้ายไปอีก 1 กิโลเมตร ตามหมายกำหนด พร้อมด้วยท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร อาสานำทีมขบวนคาราวานพิชชิต 20 จังหวัดภาคอีสาน หลังจากรอขบวนคาราวานที่พิพิธภัณฑ์พญาคันคาก และได้รับประทานอาหารร่วมกับขบวนคาราวาน  "พระธาตุก่องข้าวน้อย"เป็นเจดีย์ก่ออิฐถือปูน รูปทรงแปลกไปจากเจดีย์โดยทั่วไป คือมี




ลักษณะเป็นก่องข้าว องค์ธาตุเป็นเจดีย์เหลี่ยมย่อมุมไม้สาม ฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างด้านละ 2 เมตร ก่อสูงขึ้นไปประมาณ 1 เมตร ช่วงกลางขององค์ธาตุมีลวดลายทำเป็นซุ้มประตูทั้งสี่ด้าน ถัดจากช่วงนี้ไปเป็นส่วนยอดของเจดีย์ที่ค่อยๆ สอบเข้าหากัน ส่วนยอดรอบนอกของธาตุก่องข้าวน้อยมีกำแพงอิฐล้อมรอบขนาด 5x5 เมตร นอกจากนี้บริเวณด้านหลังองค์ธาตุมีพระพุทธรูปอยู่องค์หนึ่งก่อด้วยอิฐ นับถือว่า


ศักดิ์สิทธิ์มาก และในเดือนห้า (เมษายน) จะมีการประเพณีสรงน้ำพระและปิดทอง เชื่อกันว่าถ้าไม่ทำเช่นนี้ฝนจะแล้งในปีนั้น มีอายุอยู่ในราวพุทธศตวรรษที่ 23-25 (สมัยอยุธยาตอนปลาย) ประวัติของการสร้างธาตุแห่งนี้แตกต่างไปจากธาตุอื่น ๆ ที่มักเกี่ยวข้องกับพุทธศาสนา โดยเป็นนิทานพื้นบ้านเล่าว่า มีชายหนุ่มชาวนา (บ้างว่าชื่อ ทอง) ที่ได้ทำนาทั้งชีวิต วันหนึ่งเขาออกไปไถนา ในเวลาเที่ยงเขาเหนื่อยล้า รู้สึกเกิดอาการร้อนรนและหิวโซ มารดาของหนุ่มชาวนามาส่งข้าว แต่มาช้ากว่าเวลาปกติ ชายหนุ่มเห็นว่า


ก่องข้าวที่มารดาถือมาให้นั้นก่องเล็กมาก เขาโกรธมารดามาก จึงทำร้ายมารดาด้วยความโมโหหิว เอาคันไถนาฟาดไปที่มารดา จนมารดาล้มและเสียชีวิต หลังจากนั้นเขากินข้าวที่มารดานำมาให้ แต่ก็กินเท่าไรข้าวก่องน้อยนั้นก็ไม่หมดก่อง ลูกชายเริ่มได้สติ หันมาเห็นมารดานอนเสียชีวิตบนพื้น จึงรู้สึกเสียใจมากที่ได้ทำผิดไป จึงได้สร้างธาตุก่องข้าวน้อยแห่งนี้ขึ้นมาด้วยมือเพื่อชดใช้บาปกรรม นอกจากนี้แล้วบริเวณรอบๆ องค์ธาตุ กรมศิลปากรได้ค้นพบหลักฐานทางโบราณคดีต่าง ๆ เกี่ยวกับการอยู่อาศัย ณ ที่


แห่งนี้ ของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ของไทย และภาพเขียนสียุคเดียวกับโบราณสถานบ้านเชียงด้วย อนึ่งชื่อที่ถูกต้องของธาตุองค์นี้ ควรจะเรียกว่า "ธาตุก่องข้าวน้อย" มากกว่า "พระธาตุก่องข้าวน้อย" เพราะภายในบรรจุอัฐิบุคคลธรรมดา มิใช่เป็นอัฐิพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เหมือนเช่นพระธาตุ หรือพระบรมธาตุทั่วไป ต้องการแหล่งอ้างอิงดีกว่านี้ ปัจจุบัน ได้มีการค้นพบ ธาตุวัดทุ่งสะเดา ซึ่งมีขนาดเล็กกว่ามาก ตั้งอยู่ไม่ไกลกันมากนัก จึงได้มีการสันนิษฐานใหม่ว่า ธาตุวัดทุ่งสะเดา




น่าจะเป็นธาตุก่องข้าวน้อย ตามตำนานเล่าขาน เพราะมีขนาดเล็กคนๆ เดียวสามารถสร้างได้ ส่วนธาตุก่องข้าวน้อย บ้านตาดทอง มีขนาดใหญ่พอๆ กับพระธาตุอานนท์ วัดมหาธาตุ ซึ่งมีสถาปัตยกรรมที่มีรูปแบบเฉพาะตัว บุคคลคนเดียวไม่มีความรู้เรื่องช่างไม่สามารถทำได้ จึงได้เรียกขานใหม่ว่า พระธาตุถาดทอง แทน หลงจากเยียมชมเสร็จสิ้นขบวนคาราวานได้เดินทางต่อไปยัง"ธรรมาศสิงห์และขัวน้อยบ้านชี ทวน จ.อุบลราชธาน ี(ระยะทางประมาณี80 กม.)ต่อไป