วางแผนยุทธศาสตร์เอาไว้เพื่อเตรียมความพร้อมในปีหน้า 2562 เพื่อผลักดันนโยบายของรัฐบาลเต็มกำลัง โดยที่จะใช้การท่องเที่ยวเป็นหลักเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้คิกคักและเข็มแข็ง ลดความเลื่อมล้ำในมิติต่างๆ จะพูดถึงแลนต์มาร์คแห่งใหม่ในวันนี้ บอกว่าลืม"เมอร์ไลอ้อนสิงคโปร์"ไปได้เลย! เพราะวันนี้เมืองไทยเรามีแลนด์มาร์คใหม่ๆเกิดขึ้นมามายอย่างเช่น "พิพิธภัณฑ์พญาคันคาก" สุดยิ่งใหญ่ริมแม่น้ำ
ทวนใน จ.ยโสธร เป็นตึกพิพิธภัณฑ์รูปคางคก ความสูง 19 เมตร หรือเท่ากับตึก 5 ชั้น สำหรับชาวอีสาน คางคกเป็นสัตว์ที่แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ และเป็นตำนานความเชื่อเกี่ยวกับประเพณีบุญบั้งไฟที่มีมาช้านาน จึงเป็นที่มาของแลนด์มาร์คแห่งใหม่ ที่ใครไปเที่ยวยโสธรก็ต้องแวะไปเช็คอิน ภายในพิพิธภัณฑ์พญาคันคาก จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับคางคกกว่า 500 สายพันธุ์ทั่วโลก และมีการจัด
ฉายตำนานของประเพณีบุญบั้งไฟในรูปแบบภาพยนตร์ 4 มิติ ให้นักท่องเที่ยวได้มาศึกษาประเพณีและเรียนรู้วิทยาศาสตร์ไปพร้อมๆ กัน แลนด์มาร์คแห่งนี้ยังได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในโครงการ “เขาเล่าว่า” ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยอีกด้วย มีเรื่องเล่าว่า...กาลครั้งหนึ่งที่อีสานแล้ง เพราะฝนไม่ตกต่อเนื่องกันถึง 7 ปี 7 เดือน 7 วัน !!! จนทำให้พญามหายุทธแดนอีสานอาสานำสัตว์ต่างๆ เช่น ช้าง ม้า วัว
ควาย ปลวก ผึ้ง และต่อแตน ขึ้นไปรบกับพญาแถนจนชนะ ฝนจึงตกมาตามเดิม โดยมีข้อแม้ว่า ต้องจุดบั้งไฟขึ้นไปบอกกล่าวทุกปี ทั้งหมดนี้จึงเป็นเรื่องราวที่มาของประเพณีบั้งไฟ บางตำนานนั้นก็เล่าว่า พญาคันคากเป็นพระโพธิสัตว์ เสวยชาติเป็นโอรสของกษัตริย์ เหตุที่ได้ชื่อว่า “พญาคันคาก” เป็นเพราะเมื่อครั้งประสูติมีรูปร่างผิวพรรณเหมือนคางคก หรือที่ชาวอีสานเรียกกันว่า คันคาก และถึงแม้พระองค์จะ
มีรูปร่างอัปลักษณ์ แต่พระอินทร์ก็คอยช่วยเหลือ จนพญาคันคากเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้าน จนลืมที่จะเซ่นบูชาพระยาแถน พระยาแถนจึงโกรธ ไม่ยอมปล่อยน้ำฝนให้ตกลงมายังโลกมนุษย์ ศึกการต่อสู้ระหว่างพญาคันคากและพญาแถนจึงเกิดขึ้น โดยพญาคันคากได้นำทัพสัตว์ต่างๆ ขึ้นไปรบ จนได้รับชัยชนะ พญาแถนจึงปล่อยให้ฝนตกลงมาเช่นเดิม แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องจุดบั้งไฟขึ้นไปบูชาเป็นประจำทุก
ปี จึงเป็นที่มาว่าเมื่อถึงเดือนหกอันเป็นต้นเดือนฤดูฝน ชาวอีสานจึงทำบั้งไฟจุดขึ้นบนฟ้าถวายพญาแถน เพื่อฝนจะได้ตกต้องตามฤดูกาลนั่นเอง หลังจากขบวนคาราวานพิชิต 20 จังหวัดภาคอีสานได้ถ่ายรูปหมู่คณะและรับประทานอาหารร่วมกันเสร็จสิ้น นายสมชาย ชมภูน้อย ผอ.ททท.ภูมิภาค ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้มอบของที่ระลึกให้แก่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร แล้วเดินทางต่อไปยัง"พระธาตุกล่องข้าว
น้อย ต่อไป สำหรับใครที่มีโอกาสไปเที่ยวจังหวัดยโสธร อย่าพลาดไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์พญาคันคากสุดอลังการแห่งนี้ รวมถึงพิพิธภัณฑ์พญาแถน และพิพิธภัณฑ์พญานาค ซึ่งตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงกัน ซึ่งภายในก็จะรวบรวมตำนานพญานาคทั้งหมดมาไว้ให้ได้ศึกษาเช่นกัน พิพิธภัณฑ์พญาคันคาก ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ยโสธร สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ททท. สำนักงานอุบลราชธานี โทรศัพท์ 045-243-770 หรือสายด่วนการท่องเที่ยว 1672 ได้ทุกวัน