พิชิต 20 จังหวัดภาคอีสาน เพื่อถ่ายภาพร่วมกันก่อนมุ่งหน้าสู่ จ.ชัยภูมิต่อไป สำหรับ"วิหารเทพวิทยาคม" หรือ วิหารปริสุทธปัญญา อุทยานธรรมกลางบึงน้ำ วิหารเป็นเซรามิกโมเสกกลางน้ำที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียของวัดบ้านไร่ ก่อสร้างขึ้นด้วยวัตถุประสงค์ที่ต้องการจะให้เป็นมหาวิหารแห่งพระไตรปิฎก หรืออีกนัยหนึ่งคือดินแดนที่รวบรวมพุทธประวัติ พระวินัย และพระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัม พุทธเจ้าที่ทรง แสดงไว้ทั้งหมด จากปณิธานของหลวงพ่อ ที่ต้องการให้ชาวบ้านมีกินมีใช้ มีงานทำ
ตลอดไป วิหารเทพวิทยาคมแห่งนี้ นอกจากจะเป็นสถานที่ที่ให้พุทธมามะกะทุกคน ได้สัมผัสธรรมะของพระพุทธเจ้า ในลักษณะปริศนาธรรม และเรื่องราวแห่งพระไตรปิฎก ผ่านหลากหลายศาสตร์แห่งศิลป์ทั้งสถาปัตยกรรม วิศวกรรม จิตรกรรม ปติมากรรม และศิลปะเซรามิกโมเสกด้วยศรัทธาอันเเรงกล้า บารมีของหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เเละองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ครั้งหนึ่งในชีวิต ที่ต้องมาสัมผัส เซรามิก โมเสกชิ้นเล็กที่สุดเท่าเม็ดถั่วเขียว 1 คน ทำได้เเค่...วันละไม่เกิน 1 ตารางเมตร วิหารเทพวิทยาคม
เป็นวิหารเซรามิกโมเสกกลางน้ำที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย บรรจงสร้างสรรค์อย่างวิจิตรงดงามตระการตา ประกอบขึ้นด้วย โมเสก มากกว่า 20 ล้านชิ้น ชาวบ้านเป็นผู้ติดอย่างละเอียดด้วยจิตศรัทธาเเละสมาธิ เพราะ 1 วัน 1 คนสามารถติดเซรามิกโมเสกได้เพียงไม่เกิน 1 ตารางเมตร ก่อเกิดเป็นศิลปกรรมอันยิ่งใหญ่ อันเกิดจากความเลื่อมใส จิตศรัทธา และความอุตสาหะของศิษยานุศิษย์ และพุทธศาสนิกชนคนไทยที่ได้ร่วมแรงร่วมใจกันรังสรรค์ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ชาวไทย เเละชาวต่างชาติ ทุกเชื้อชาติ ทุก
ศาสนาจะได้มาชื่นชมกับธรรมสถาปัตย์ อันเป็นที่สุดเเห่งความภาคภูมิใจของคนไทย วิหารเทพวิทยาคม เป็นสิ่งปลูกสร้างสูง 5 ชั้น กลางบึงน้ำวัดบ้านไร่ มีความกว้าง 60 เมตร ยาว 60 เมตร เป็นปริมณฑล อาคารสิ่งก่อสร้างองค์กลางมีขนาดกว้าง 30 เมตร ยาว 30 เมตรโดยประมาณ ความสูง 42 เมตร ซึ่งแต่ละชั้นประกอบด้วยชั้นใต้ดิน ความเชื่อ เเละ ความโชคดี จัดเเสดง เเละ ให้ผู้เข้าชมได้เลือกรับของที่ระลึกจากเงินทำบุญของท่านผู้เข้าชมเอง บรรยากาศโดยรอบจัดตกเเต่งให้เสมือนท่านได้ อยู่ในท้องนที อันศักด์สิทธ์ หรือ โลกใต้บาดาล โดยของที่ระลึกอันเป็นมงคง นั้นผู้เข้าชมสามารถเลือก ได้ตามความหมายอันเป็นสิริมงคลตามที่ท่านต้องการ ซุ้มของที่ระลึก เเบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ
ชั้น1 ภาพพุทธประวัติ เเละ ต้นโพธิอธิฐาน ความงามสุดเเล้วเต่ปัจเจกมอง เเต่ความหมายยิ่งใหญ่ เเห่งพุทธประวัติ...คงอยู่ชั่วกาลนาน
ภาพที่ 1 พุทธอนุโมทนา (ประสูติ)
ภาพที่ 2 พุทธปัญญา (ตรัสรู้)
ภาพที่ 3 พุทธปาฏิหาริย์ (เผยแผ่พระพุทธศาสนาแด่เหล่าเทวดา)
ภาพที่ 4 พุทธบารมี (เผยแผ่พระพุทธศาสนาแด่เหล่ากษัตริย์และนักบวช)
ภาพที่ 5 พุทธปีติ (เผยแผ่พระพุทธศาสนาแด่ชาวบ้าน หมู่มาร และนักบวช)
ภาพที่ 6 ปฐมพุทธศาสน์ (ปรินิพพาน)เพดาน ภายในห้องจัดเเสดง ภาพพระพุทธประวัติ เเละ ต้นโพธิอธิฐาน เเสดงถึงบารมี เเห่งพระพุทธองค์ เมื่อทรงตรัสรู้เเล้วเเผ่ไพศาลไปทั่วจักรวาลบรรยากาศ ค่อยๆ สูงขึ้น จนเหนือชั้นฟ้า เหนือเมฆ ไปจนอสงไขย ไม่มีที่สิ้นสุด
โดยรอบนำเสนอเรื่องราวของพระวินัยปิฎก เเละ วิวัฒนาการ พระพุทธศาสนา หลังจากพระพุทธเจ้าเสด็จดับขรรธ์ ปรินิพพาน อทิ ศีล 227 ข้อ เเละ เรื่องราวของนิกายต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการตีความพระวินัยเเละพระธรรมคำสอน ในหลากหลายเเง่มุม ส่วนพื้นที่สงบเงียบตรงกลางนั้นเป็น พื้นที่โล่งให้สาธุชนได้อธิฐานจิต
เพื่อเป็นกุศลเเก่ตนเอง ส่วนห้อง บริเวณ เศียรช้างเป็นห้อง พระราชาผู้ทรงธรรม อันจะเนรมิตรให้เป็นนิทรรศการเพื่อเทิดพระเกรียติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของพวกเรา ซึ่งท่านคือ ผู้นำเเนวทางเเห่งอริยสัจ 4 มาดำเนินเพือให้ประชาชนชาวไทย ได้พ้นทุกข์ อันจะได้เห้นจาก โครงการในพระราชดำริ ที่เกิดขึ้นมากมายเพื่อให้ ปวงชนได้ พ้นจาก ความ จน มาเป็นความ”พอ”
ชั้น3 เรื่องราวของพระธรรมปิฎก พระธรรมขันธ์ พระธรรมของพระพุทธเจ้า ที่เผยเเพร่ ตามจริตของผู้ฟัง เเบ่งได้เป็น 84,000 พระธรรมขันธ์จัดเเสดง หมุนเวียน ตลอดวลา เพื่อให้ผู้เข้าชม ได้เข้าใจหลักพระธรรม ตามธรรมขันธ์ต่างๆ จิตรกรรมวิจิตร บนเพดานชั้น3 เป็นใบโพธ์มากกว่า 84,000 ใบ นี้เพื่อสอดเเทรกคำสอนเรื่องของความเพียร เรียนรู้พระธรรม เเละยังเป็นเครื่องเตือนใจพุทธศาสนิกชนว่า พระองค์ มิได้มุ่งเเต่ ถ่ายทอด เเก่นพระธรรมตามที่พระองค์ทรงตรัสรู้ หากเเต่ สั่งสอนพระธรรมตามจริตของผู้สดับธรรม
นั้นๆด้วย ดังนั้นพระธรรมของพระพุทธเจ้า ทั้ง 84,000 พระธรรมขันธ์ นั้นเพื่อสั่งสอนผู้คนตามจริตซึ่งจริต ของเเต่ละปัจจเจกนั้นมิได้เหมือนกันเป็นเเบบเเผนเดียวกัน การเผยเเพร่พระธรรม จึงมิได้มุ่งเเต่เพียง เผยเเพร่เเก่นด้วยวิธีเดียว เเต่วิธีในการเผยเเพร่ต่อ เเต่ละบุคคลก็มีความสำคัญในการที่จะทำให้บุคคลนั้นๆ เข้าใจซึ่งพระธรรมด้วย