จำนวนผู้เข้าชมวันนี้

วันพุธที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2562

ททท.สำนักงานสุรินทร์ นำคณะสื่อมวลชนเดินทางไปกราบนมัสการ สรีระสังขารของหลวงปู่สรวง ณ วัดไพรพัฒนา บ้านไพรพัฒนา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อขอพรในวันขึ้นปีใหม่ 2562

วันที่ 1 มกราคม 2562 เวลา 13.00 น.ททท.สำนักงานสุรินทร์ นำคณะสื่อมวลชนเดินทางไปกราบนมัสการ สรีระสังขารของหลวงปู่สรวง ณ วัดไพรพัฒนา บ้านไพรพัฒนา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษเพื่อขอพรในวันขึ้นปีใหม่ บรรยากาศภายในวัดไพรพัฒนาเต็มไปด้วยผู้คนที่หลั่งไหลมากราบขอพรเพื่อเป็น


ศิริมงคลในปี 2562 กันแน่นวัด สำหรับวัดไพรพัฒนา เป็นที่พำนักของหลวงปู่สรวง นักบุญแห่งดินแดนอีสานใต้ พระผู้บำเพ็ญเพียรตามแนวเขตชายแดนไทย-กัมพูชา อันมีเมตตาบารมีช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากจนเป็นที่รักและศรัทธาของผู้คนทั่วไป จนเป็นที่เรียกขานกันว่า “เทวดาเดินดิน” ภายหลังจากที่หลวงปู่ละสังขารเมื่อปี 2542 สรีระสังขารของหลวงปู่ไม่เน่าเปื่อย ลูกศิษย์ได้นำไปบรรจุไว้ในโลงแก้ว




เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้มากราบไหว้ขอพร และลอดใต้โลงแก้วเพื่อความเป็นสิริมงคล หลวงปู่สรวงแต่เดิมเป็นชาวกัมพูชาและได้เดินทางมาอยู่บริเวณอำเภอขุนหาญและอำเภอขุขันธ์ แถบชายแดนตามเชิงเขาพนมดังรัก (พนมดองเร็ก) ซึ่งเป็นเขตกั้นกลางระหว่างประเทศกัมพูชา ท่านเป็นผู้ทรงศีลปฏิบัติธรรมอยู่เสมอ และได้พักอาศัยอยู่ตามกระท่อมในไร่นาของชาวบ้านโคก และเวียนไปในที่




ต่างๆ นานๆ ก็จะกลับมาให้เห็น ณ ที่เดิมอีก ในสายตาและความเข้าใจของชาวบ้านในสมัยนั้นมองท่านว่าเป็นผู้มีคุณวิเศษแตกต่างจากบุคคลทั่วไป และเรียกขานท่านว่า “ลูกเอ็อวเบ๊าะ” หรือ “ลูกตาเบ๊าะ” (เป็นภาษาเขมร หมายถึงพระดาบสที่เป็นผู้รักษาศีลอยู่ตามถ้ำตามป่าเขา)ในสมัยนั้น มีป่าเขาอุดมสมบูรณ์เต็มไปด้วยป่าไม้และสัตว์ป่านานาพันธุ์ มีลูกศิษย์ติดตามหลวงปู่เดินธุดงค์ตามป่าเขาแถบชายแดนไทย




ตลอดจนถึงประเทศเขมร แต่ก็อยู่กับหลวงปู่ได้ไม่นานจำต้องกลับบ้าน เนื่องจากทนความยากลำบากไม่ไหว หลวงปู่จึงเดินธุดงค์ไปในที่ต่างๆโดยลำพัง ทำให้ไม่มีใครทราบถิ่นกำเนิดและอายุของหลวงปู่ที่แท้จริง รู้เพียงแต่ว่าหลวงปู่เป็นชาวเขมรต่ำ ได้เข้าอาศัยในประเทศไทยนานแล้ว คนแก่คนเฒ่าผู้สูงอายุที่เคยเห็นท่านต่างพูดว่า พอจำความได้ก็เห็นท่านอยู่ในลักษณะเหมือนที่เห็นในปัจจุบันนี้ ผิดไปจากเดิม




บ้างเล็กน้อยเท่านั้น อีกทั้งหลวงปู่เป็นคนพูดน้อยและไม่เคยเล่าประวัติส่วนตัวให้ใครฟัง จึงไม่มีใครทราบประวัติและอายุที่แท้จริงของท่านได้ ชาวบ้านแถบนี้เห็นหลวงปู่บ่อยๆ ที่ป่าบ้านตะเคียนราม วัดตะเคียนราม (อำเภอภูสิงห์) แถวบ้านลุมพุก ตำบลกันทรารมย์ อำเภอขุขันธ์ และตามหมู่บ้านอื่นๆ รอบชายแดน ท่านจะอยู่แถบนี้โดยตลอด แต่ก็จะไม่อยู่เป็นประจำในที่ใดที่หนึ่ง บางทีหายไป ๒-๓ ปีก็จะกลับ




มาใหม่อีกครั้งโดยที่ไม่รู้ว่าหลวงปู่ไปไหน มาระยะหลังๆ นี้พบหลวงปู่เป็นประจำอยู่ในกระท่อมนาข้างต้นโพธิ์ บ้านขะยอง วัดโคกแก้ว บ้านโคกเจริญ กระท่อมนาระหว่างบ้านละลม กับบ้านจะบก กระท่อมนาบ้านรุน (อำเภอบัวเชด) และบ้านอื่นๆใกล้เคียง ซึ่งแห่งนี้ก็ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนาอีกหนึ่งแห่งที่ ททท.สำนักงานสุรินทร์อยากเชิญชวนนักท่องเที่ยวมากราบขอพรเพื่อเป็นศิริมงคล เมื่อมาถึงจังหวัด




ศรีสะเกษ สำหรับ ททท.สำนักงานสุรินทร์ มีหน้าที่กำกับดูแลพื้นที่ใน 2 จังหวัด คือสุรินทร์และศรีสะเกษ นักท่องเที่ยวสามารถสอบถามข้อมูลการเดินทางหรือข้อมูลการท่องเที่ยวต่างๆของจังหวัดสุรินทร์และศรีสะเกษได้ที่โทร. 0-4451-4447-8 โทรสาร 0-4451-8530 e-mail : tatsurin@tat.or.th เว็ปไซร์ http://www.tourismthailand.org/surin