"วัดป่าอาม็อง" ตั้งอยู่เลขที่ 27 บ้านอาม็อค หมู่ที่ 13 ตำบลท่าสว่าง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ สังกัดคณะสงฆ์มหากาย เนื้อที่ 15 ไร่ 40 ตารางวา อาณาเขต: ทิศเหนือจดทางสาธารณประโยชน์ ทิศตะวันออกจดทางสาธารณประโยชน์ ทิศตะวันตกจดทางสารธารณประโยชน์ ทิศตะวันตกจดสหกรณ์ปฏิรูปที่ดิน
จังหวัดสุรินทร์ สำหรับ"วัดป่าอาม็อง"ได้รับอนุญาตให้สร้างเมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2558 และใช้ชื่อนี้เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2528 และได้รับพระราชทาน วิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2547 ปัจจุบันมีครูโสภรณธรรมาภิมณฑ์ ดร.(วิรัต โสภรณ์สีโล ป.ธ.3) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดยานนาวา พระอารามหลวงกรุงเทพมหานคร ดำรงตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาสวัดป่าอาม็อง โดยมีพระภิกษุและสามเณรในวัดทั้งหมดจำนวน 24 รูป มีเจ้าอาวาสมาแล้วทั้งสิ้น 4 รูปรวมปัจจุบัน
1.พระอธิการพลัน จนฺโซโต พ.ศ. 2528-2533
2.พระอธิการน้อย โกวิโท พ.ศ. 2533-243
3.พระอธิการวิลาส กนฺตวีโร พ.ศ.2543-2553
4.พระครูโสภรรธรรมาภิมณฑ์(วิรัติ โสภรสีโล ป.ธ.3) พ.ศ.2553 ปัจจุบัน
เมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ.2557 "วัดป่าอาม็อง"ได้ทำพิธีเปิดพิพิธภัณฑ์พระพุทธรูปไม้โบราณพระพรหมวชิรญาณ โดยมีพระเดชพระคุณพระพรหมวชิรญาณ เจ้าอาวาสวัดยานนาวา พระอารามหลวง กรรมการมหาเถรถสมาคม องค์อุปถัมภ์พิพิธภัณฑ์พระพุทธรูปไม้โบราณ สำหรับพิพิธภัณฑ์เหล่านี้เป็นอีกหนึ่งการเรียนรู้ อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดสุริทร์เปิดบรารแก่นักเรียน นักศึกษา และผู้ที่สนใจทั่วไปได้เข้าใจทุกวัน จนได้รับการคัดเลือกให้เป็นวัดต้นแบบารส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม จากสำนักงาน ศาสนาจัหวัดสุริทร์ เมื่อ พ.ศ.2557 นับเป็นเกียรติประวัติและความภูมิใจของชาวตำบลท่าสวาส และชาวจังหวัดสุริทร์
ความเชื่อของชุมชนชาวเขมรสร้างพระพุทธรูปไม้ในช่วงช่วงเข้าพรรษา โดยจะส่องแสวงหาไม้ ที่เป็นไม้มงคลแล้วนำมาทำพิธีกรรม มีการเกะสลักพระพุทธรูปไม้เพื่อเป็นพุทธบูชา นำไปถวายวัดใดวัดหนึ่งในวันออกพรรษา หรือ “วันเทโรโวหนะ” ซึ่งในสมัยก่อนนั้นไม่มีการหล่อหรือเททองแบบปัจจุบันชาวเขมรจึงขวนขวาย ในการหาไม้ต่างๆ มีไม้จันทร์หอม ไม้ตะเคียนไม้พยุง ไม้กันเกราเป็นอาทิ แวแต่ความนิยมชมชอบและความเชื่อของการสร้าง ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมในด้านต่างๆ ถ้าอุดมสมบูรณ์พระพุทธรูปก็จะ
ดูอิ่มเอิบ ถ้าแห้งแล้ง พิพิธภัณฑ์พระพุทธรูปไม้โบราณพระพรหมวรชิญาณ ให้ดำเนินการจัดตั้และก่อสร้างโดยพระ-ครูโสภรธรรมณฑ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดยานนาวา พระอารามหลวง รักษาการเจ้าอาวาสวัดม็อง และ อาจาร์ยประจำมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลับวิทยาเขตสุรินทร์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแหล่งศึกษาทางการศิลปะในพระพุทธศาสนาและรวบรวม คัมภีร์ใบลานตามยุคตาม
สมัยตั้งแต่สมัยเดิมจนถึงสมัยดั้งเดิมจนถึงปัจจุบัน เพื่อเป็นแหล่งการเรียนรู้ให้แก่ภิกษุ สามเณรและฆารวาส ในสถาบันการศึกษา เมื่อวันที่ 3 กรกฏาคม พ.ศ.2558 ได้มีพิธียกเสาเอกกุฏิรับรองพระพรหมวชิรญาณ โดยได้ออกแบบแปลนการก่อสร้างกุฏิ เป็นอาคารสองชั้นทรงแปดเหลี่ยมหรือดาวแปดแฉกมีความหมายถึงพระอรหันต์คุ้มครองแปดทิศได้แก่
ทิศที่ 1 พระอรัญญาโกณฑัญญเถระอยู่อย่างทิศบูรพา
ทิศที่ 2 พระมหากัสสปะ อยู่ทางทิศอาคเนย์
ทิศที่ 3 พระสารีบุตร อยู่ทางทิศทักษิณ
ทิศที่ 4 พระอุบาลี อยู่ทางทิศหรดี
ทิศที่ 5 พระอานนท์ อยู่ทางทิศปัจฉิม
ทิศที่ 6 พระอานนท์ อยู่ทางทิศปัจฉิม
อยู่ที่ 7 พระมหาโมคคัลลานะ อยู่ทางทิศอุดร
อยู่ที่ 8 พระมหาโมคคัลลานะ อยู่ทางทิศอุดร
ปัจจุบันเปิดให้พุทธศาสนิกชนทั่วไป นักท่องเที่ยวได้เข้าศึกษาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ ดังกล่าวเป็นประจำทุกวัน นักท่องเที่ยวสามารถสอบถามรายละเอียด เส้นทางการเดินทางและข้อมูลต่างๆได้ที ททท.สำนักงานสุรินทร์ โทร. 0-4451-4447-8 โทรสาร 0-4451-8530 e-mail tatsurin@tat.or.th http://www.tourismthailand.org/surin