(ล้วงไหทองคำ)มหาโชค มีรางวัลมากมาย การแสดงพื้นบ้านสุรินทร์ และการสวดมนต์ข้ามปีเพื่อเสริมบารมี เสริมสิริมงคล เสริมดวงชะตา ให้สมหวังตลอดปี 2562 และในวันพรุ่งนี้วันที่ 31 ธันวาคม 2561 เวลา 12.00 น.เที่ยงคืน นางสาวธมลวรรณ เจริญวงศ์พิสิฐ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสุรินทร์ กล่าวว่า วันนี้มาร่วมส่งเสริมและสืบสานประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงาม ของคนในท้อง
ถิ่นและร่วมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่เพื่อเป็นของขวัญให้แก่คนในชุมชนแห่งนี้ ในวันพรุ่งนี้ก็ขอเชิญนักท่องเที่ยวและประชาชนมาร่วมสวดมนต์ข้ามปีและรับอั่งเปามหามงคล(เงินก้นถุง)กันค๋ะ สำหรับวัดกลางสุรินทร์แห่ง ตามประวัติได้เริ่มสร้างขึ้นเมื่อใดใครเป็นผู้สร้าง ยังไม่มีหลักฐานปรากฏชัดแต่สถานที่ตั้งวัดนั้นพอมีเหตุผลที่น่าเชื่อดังนี้ เมืองสุรินทร์มีกำเนิดมาแต่ครั้งใด นักประวัติศาสตร์สันนิษฐานว่า หลายร้อย
ปีมาแล้วโดยมีชื่อเดิมว่า ไผทสมัน ต่อมาเมื่อประมาณ พ.ศ. 2306 เชียงปุมซึ่งเดิมอยู่บ้านเมืองที ได้รับบรรดาศักดิ์เป็นพระสุรินทร์ภักดี และย้ายมาอยู่ที่ไผทสมัน เมืองนี้จึงได้ชื่อว่าเมืองสุรินทร์ ตามบรรดาศักดิ์ของเจ้าเมือง ในการอพยบครั้งแรก สันนิษฐานว่า ได้เริ่มกำหนดตั้งสถานที่หลักเมืองขึ้นโดยถือเนื้อที่ส่วนกลางของเมืองจริง ๆ กล่าวคือประมาณอาณาเขตภายในคูกำแพงเมืองชั้นใน จากทิศตะวัน
ออกจดทิศตะวันตก และจากทิศเหนือจดทิศใต้ มีศูนย์กลางตรงที่ตั้งหลักเมืองในปัจจุบันพอดี ถนนสายนี้เกิดขึ้นในสมัยหลัง ส่วนจวนเจ้าเมืองนั้น ตั้งเยืองจากศาลเจ้าหลักเมืองมาทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือตรงบริเวณตลาดเก่า ตรงหน้าวัดกลางปัจจุบัน หรือบริเวณหลังโรงแรมโมเมเรียลทั้งหมดเป็นบริเวณจวนเจ้าเมืองมาแต่เดิม แต่ปัจจุบันนี้เป็นที่ของเอกชนหมดแล้ว วัดกลาง น่าจะเริ่มได้รับการก่อสร้างขึ้นใน
สมัยนี้ ทั้งนี้เนื่องจากตั้งในเนื้อที่แนวเดียวกับจวนเจ้าเมือง ด้านทิศตะวันออกขนานกับจวนเจ้าเมือง โดยมีทางขั้นกลางระหว่างจวนเจ้าเมืองกับวัด ปัจจุบันทางสายนี้ คือถนนธนสารซึ่งเป็นทางสายเดียว ที่ตัดกลางเมืองทอดจากกำแพงด้านเหนือจดด้านใต้ และมีถนนสายหลักเมืองผ่ากลางจากตะวันออกสู่ตะวัน
ตก ตัดกันเป็นสี่แยกหลักเมือง ถนนสองสายนี้เป็นถนนดังเดิมของเมืองสุรินทร์ การวางผังเมืองของเจ้าเมืองสุรินทร์ เข้าใจว่า ได้เพ่งถึงจุดศูนย์กลางของตัวเมืองและสร้างจวนในบริเวณดังกล่าว ที่แห่งนี้เป็นเนินสูง