1. กลยุทธ์การกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวกระแสหลัก โดยจากการสำรวจพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวในภูมิภาคภาคกลาง ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะนิยมขับรถยนต์เที่ยวเอง เนื่องจากภาคกลางมีศักยภาพด้านพื้นที่และเส้นทางที่ใช้เวลาในการเดินทางไม่นาน และมีแหล่งท่องเที่ยวไม่ไกลกันมาก ประกอบกับความเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นด้านอาหาร ผ่านเรื่องราวประวัติศาสตร์ของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ดังนั้น ททท.ภูมิภาคภาคกลาง จึงได้กำหนดจัดโครงการ “อร่อยเด็ด เจ็ดย่านน้ำ” และโครงการ “ขับรถเที่ยวใกล้ สุขใจแค่เอื้อม” ขึ้น เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวกระแสหลัก ที่ชื่นชอบการเดินทางท่องเที่ยวทางรถยนต์ ผ่านเรื่องราวของ อาหาร เครื่องดื่ม ที่มีชื่อเสียง และประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน อาทิ อาหารตำรับชาววัง เส้นทางสายปลาทู เส้นทางขนมหวาน ฯลฯ.
2. กลยุทธ์ขยายฐานนักท่องเที่ยวกลุ่มศักยภาพ กลยุทธ์นี้ จะเน้นกลุ่มความสนใจพิเศษ อาทิ กลุ่มผู้มีรายได้สูง, กลุ่ม Couple, กลุ่มผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ที่จะได้เดินทางสัมผัสประสบการณ์ย้อนอดีตภายใต้โครงการ “Premium Nostalgia…More Legacy มรดกแห่งสยาม” โดยนำเสนอสินค้าทางการท่องเที่ยวที่เป็นมรดกตกทอดตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ ทั้งวัด/วัง งานศิลปะชั้นสูง และโครงการพระราชดำริ.
3. กลยุทธ์กระจายพื้นที่และช่วงเวลาในการท่องเที่ยว กลยุทธ์นี้เป็นการต่อยอดความสำเร็จจากปีที่ผ่านมา ซึ่ง ททท.ภูมิภาคภาคกลาง ได้ดำเนินการจัดโครงการ “เมืองต้องห้าม...พลาด@ภาคกลาง” เพื่อแก้ปัญหาการกระจุกตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวในเมืองหลัก จนประสบความสำเร็จ ทำให้เกิดรายได้หมุนเวียนไปยังทั่วทั้งภูมิภาค
ดังนั้น ในปีงบประมาณ 2562 ที่จะถึง เราจะได้พบกับโครงการ “ภาคกลางเที่ยวใกล้” ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ที่นอกจากตอกย้ำจุดขายที่มีเอกลักษณ์ทางการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพมากกว่าเชิงปริมาณแล้ว ยังเพื่อสร้างการรับรู้ “เมืองรอง” ในภูมิภาคภาคกลางเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย โดยในส่วนของเมืองรองทั้งหมดที่มีอยู่ใน 55 จังหวัดของประเทศไทย สำหรับภูมิภาคภาคกลางนั้น มีเมืองรองอยู่ในจังหวัดต่างๆ ถึง 7 จังหวัดด้วยกัน คือ ราชบุรี สมุทรสงคราม สุพรรณบุรี ลพบุรี อ่างทอง ชัยนาท สิงห์บุรี
ขณะเดียวกัน ททท.ภูมิภาคภาคกลางยังได้กำหนดแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวในรูปแบบ Creative Tourism ภายใต้ชื่อโครงการ “Go Local Go Central” เพื่อส่งเสริมและกระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างยั่งยืน และยังมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวในวันธรรมดา ภายใต้ชื่อโครงการ “วันธรรมดาน่าเที่ยว” เนื่องจากพฤติกรรมการเดินทางท่องเที่ยวในวันธรรมดาภายในพื้นที่ภาคกลางมีสัดส่วนค่อนข้างต่ำ ก่อให้เกิดการกระจุกตัวในแหล่งท่องเที่ยวในช่วงวันเสาร์ และอาทิตย์มากเกินไป แต่การเดินทางในวันธรรมดา จะสามารถตอบโจทย์นักท่องเที่ยวได้ดีกว่า ทั้งในแง่ของการท่องเที่ยวอย่างสะดวกสบาย ไม่ต้องเบียดเสียดในแหล่งท่องเที่ยว และตัดปัญหาเรื่องการจราจรที่ติดขัด รวมถึง ยังสามารถเข้าถึงการให้บริการจากผู้ประกอบการได้อย่างเต็มที่.
4. กลยุทธ์สร้างความเข้มแข็งให้สังคมและรักษาสิ่งแวดล้อม แม้ว่าการท่องเที่ยวจะเป็นอุตสาหกรรมหลักที่สร้างรายได้ให้แก่ประเทศไทย แต่ในขณะเดียวกัน รัฐบาลยังมุ่งหวังให้มีการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวไทยควบคู่ไปด้วยกัน เพื่อวางรากฐานให้สังคมเข้มแข็งและยั่งยืน ททท. จึงได้กำหนดแผนงานส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศขึ้น ภายใต้ชื่อ “เมืองไทย ใครๆ ก็เที่ยวได้” โดยเจาะกลุ่มเป้าหมายผู้มีรายได้ต่ำกว่า 10,000 บาทต่อเดือน และยังสร้างโอกาสในการเดินทางท่องเที่ยวให้กับกลุ่มผู้ด้อยโอกาส อาทิ คนพิการ เด็ก และ คนชรา ตามแนวคิด “Tourism For All”
ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้การท่องเที่ยวเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้เกิดการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวไทย อันจะทำให้สังคมไทยเข้มแข็งและยั่งยืนตามนโยบายรัฐบาล อนึ่ง สำหรับ ททท.ภูมิภาคภาคกลาง ได้แบ่งพื้นที่รับผิดชอบออกเป็น 9 สำนักงาน 17 จังหวัด ประกอบด้วย
1. ททท.สำนักงานกรุงเทพฯ รับผิดชอบพื้นที่ กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี
2. ททท.สำนักงานเพชรบุรี รับผิดชอบพื้นที่ เพชรบุรี
3. ททท.สำนักงานกาญจนบุรี รับผิดชอบพื้นที่ กาญจนบุรี
4. ททท.สำนักงานสมุทรสงคราม รับผิดชอบพื้นที่ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร
5. ททท.สุพรรณบุรี รับผิดชอบพื้นที่ สุพรรณบุรี อ่างทอง
6. ททท.ราชบุรี รับผิดชอบพื้นที่ ราชบุรี นครปฐม
7. ททท.พระนครศรีอยุธยา รับผิดชอบพื้นที่ พระนครศรีอยุธยา สระบุรี
8. ททท.ลพบุรี รับผิดชอบพื้นที่ ลพบุรี สิงห์บุรี ชัยนาท
9. ททท.ประจวบคีรีขันธ์รับผิดชอบพื้นที่ ประจวบคีรีขันธ์
ติดตามการเดินทางและกิจกรรมต่างๆของ ททท.ภูมิภาคกลางกันได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
สอบถามดารเดินทางท่องเที่ยวภาคกลาง ที่
หมายเลข 1672
#เที่ยวภาคกลาง
#ภาคกลางเที่ยวใก้ลที่ไหนก็สนุก
#เที่ยวเมืองรองภาคกลาง
#Amazingไทยเท่