จำนวนผู้เข้าชมวันนี้

วันเสาร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2561

วัดสว่างอามรณ์ หอคอยชมวิว 360 องศา บนหินทรายล้านปีที่สามารถมองข้ามฝังโขงไปยัง สปป.ลาว

วันที่ 28 กันยายน 2561 เวลา 15.15 น.ขบวนคาราวานพิชิต 20 จังหวัดภาคอีสาน จัดโดย ททท.ภูมิภาค ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้เดินทางมาถึง ณ วัดสว่างอามรณ์ (ถ้ำศรีธน) ตั้งอยู่ที่ บ้านโนนศิลา หมู่ 1 ตำบลโนศิลา อำเภอปากคาด จังหวัดบึงกาฬ เป็นวันสังกัดคระสงฆ์มหานิกาย มีพื้นที่ตั้งวัดเนื้อที่ทั้งหมด40 ไร่ มีอาณาเขตดังนี้ ทิศเหนือ จนถนนสาธารณะ ยาวประมาณ 8 เส้น ทิศใต้ จดถนนสาธารณะ


ยาวประมาณ 8 เส้น ทิศตะวันออก จดถนนสาธารณะยาวประมาณ 5 เส้น ทิศตะวันตก จดถนนสาธารณะยาวประมาณ 5 เส้น พื้นที่ตั้งวัดมีความเป็นมาตามประวัติที่เล่าขานกันมาตั้งแต่โบราณกาล ซึ่งเป็นที่ประจัก มีก้อนหินทรายที่ใหญ่มาก มีอายุนับล้านปี ตั้งอยุ่บริเวณตรงกลางพื้นที่ของวัดจะมีเจดีย์ทรงระฆังคว่ำ ตั้งอยู่บนก้อนหินใหญ่ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของอำเภอปากคาด ด้านล่างก้อนหินใหญ่ดังกล่าวนี้ ด้านทิศตะวัดตก มีถ้ำยาวประมาณ 60 เมตร ลึกประมาณ 10 เมตรโดยเฉลี่ย ชาวบ้านเรียกว่า”ถ้ำศรีธน’’ ด้านหลังถ้ำ





ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ มีก้อนหินทรายตั้งเรียกกัน 3 ก้อนนี้ว่า เป็นการประลองวิชาอาคมของท้าวศรีธนลองดาบ บริเวณด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้มีก้อนหินเรียงรายอยู่เป็นจำนวนมาก และมีรอยอยู่ด้านล่างหินคล้ายรอยฝ่ามือ ชาวบ้านเรียกว่ารอยมือท้าวศรีธนประลองพลัง โดยยกก้อนหินมาวางไว้หลังจากเรียนวิชาอาคมกับฤๅษี นอกจากสิ่งที่ธรรมชาติสร้างไว้ตามที่กล่าวมาแล้ว ยังมีอาคารเสนาสนะปูชนีย์สถาน ที่ชาวบ้านพร้อมคณะสงฆ์แต่ละยุคสมัยร่วมกันสร้างขึ้นตามลำดับ ดังนี้ ด้านทิศตะวันออกมีถ้ำฤๅษี วิหาร




ครอบรอยพระพุทธบาจำลอง และอาคารเสนาสนะ ประกอบด้วยอุโบสถ วิหารหน้าถ้ำศรีธน หอสวดมนต์ ศาลาการเปรียญ สระน้ำพญานาค มีฌาปนสถาน (เมรุ) พร้อมอาคารที่พักญาติที่พักสงฆ์ เพื่อใช้ประกอบพิธี มีกิที่พักสงฆ์ และปูชนีย์วัตถุเช่นพระพุทธรูปปางต่างๆ มีรูปจำลองฤาษี รูปจำลองท้าวศรีธน รูปจำลองนางมโนราห์ รูปจำลองนางมสิกา รูปจำลองสุนทรภู่ รูปจำลองพระอภัยมี โดยมีสระน้ำอยู่ทางเข้า


ฤาษี และมีน้ำตกจำลองเป็นต้นวัดสว่างอามรณ์ (ถ้ำศรีธน) สร้างขึ้นเมื่อประมาณ ปี พ.ศ. 2425 ตามหลักฐานอ้างอิง คือสร้างขึ้น ณ 23 มีนาคม 2425 โดยท้าวขุนไกรซึ่งอพยพมาจากฝั่งประเทศลาว (ส.ปป.ล.)มาตั้งบ้านเรือนอยู่ริมน้ำโขง ใกล้บ้านห้วยคาด ต่อมาตั้งชื่อหมู่บ้านนี้ว่าบ้านปากคาด ระยะต่อมากมีคนอพยพมาอยู่มากขึ้นมาก และขยายความเจริฯญขึ้นตามลำดับ ชาวบ้านที่อพยพมาอยู่ปากคาด ก็ได้ร่วม




กันก่อสร้างวัดขึ้นบนที่ดินของ นายจันทรา ไกรราช ซึ่งเป็นบุตรชายของขุนไกร และได้ร่วมกันตั้งชื่อวัดสว่างอามรณ์(ถ้ำศรีธน) โดยชาวบานจะเอ่ยปากเรียกวัดนี้ว่าวัดถ้ำศรีธน จนเคยชิน และเรียกขานนามวัดนี้จนถึงปัจจุบัน ส่วนชื่อที่เป็นทางการคือ “วัดสว่างอามรณ์”