รายงานว่า ทนายปิยณัฐ สุกยัง ทนายอาสาจากเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาหรือคำสั่งในคดีอาญาที่ อ.846/2561 ที่ศาลจังหวัดนางรอง จ.บุรีรัมย์ โดยฝ่ายนางมานิตย์ เต็มปักษี ถูกแฟนของลูกสาววัย 14 ปีฟ้องโดยตรงต่อศาลว่ายักยอกหวยรางวัลที่ 1 ชุดที่ 14 จำนวนรางวัล 12 ล้าน งวดที่ 1 เมษายน 2561 เลขที่ออก 412073 โดยในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง โจทก์คือแฟนของลูกสาวได้อ้างว่าไปซื้อสลากพร้อมกับแฟนสาววัย 14 เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2561 และได้สลักหลังสลากไว้ชัดเจน เมื่อถูกรางวัลนั้นแฟนสาวได้โทรหาแม่ตัวเอง คือจำเลยในคดีนี้ว่าถูกราง
ก็ส่งมอบให้จำเลยไปเพื่อขึ้นเงิน โดยหลังจากส่งมอบแล้วก็ได้อ้างว่าจำเลยได้ยักยอกสลากเป็นของตัวเอง ฝ่ายโจทก์จึงได้แจ้งความ และดำเนินการฟ้องโดยตรงต่อศาล ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องนั้น ฝ่ายโจทก์มีพยานมาเบิกความคือโจทก์เอง จำเลย และแม่ของโจทก์ ได้เบิกความยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าจำเลยยักยอกไป และได้ขอหมายศาลไปยังกองสลากเพื่อตรวจสอบรางวัลที่ 1 ชุดที่ 14 งวดดังกล่าวว่ามีคนขอขึ้นรางวัลไปหรือไม่ แต่ปรากฎว่าเมื่อขอหมายศาลไปนั้น รางวัลที่ 1 ชุดที่ 14 ได้มีคนขึ้นเงินไปแล้ว และชื่อที่สลักหลังนั้นก็ไม่ใช่ชื่อโจทก์แต่อย่างใด จากนั้นโจทก์จึงขอแก้ฟ้องว่าจำไม่ได้ว่าโจทก์ถูกรางวัลชุดที่เท่าใดกันแน่ จากหลักฐานที่ฝ่ายโจทก์เบิกความมาทั้งหมด ศาลได้วินิจฉัยว่าเป็นเพียงแค่พยานบุคคล และพยานบอกเล่า ไม่มีวัตถุพยาน หรือพยานเอกสารมายืนยันว่าจำเลยกระทำผิดจริง และการที่จำเลยไปแจ้งความไว้เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2561 จำได้ว่าสลากที่ถูกรางวัลคือชุดที่ 14 เป็นระยะเวลากระชั้นชิดกับตอนเกิดเหตุ จึงน่าเชื่อว่า ไม่อาจปั้นแต่งเรื่อง ประกอบกับพยานเอกสารจากกองสลาก็ไม่ปรากฏชื่อ
โจทก์ ที่สลักไว้หลังสลาก และไม่ปรากฏชื่อของจำเลย หรือญาติของจำเลยไปขึ้นเงิน ศาลจึงมีคำพิพากษายกฟ้องโจทก์ในชั้นไต่สวน ด้านนางมานิตย์ เต็มปักษี ผู้ถูกฟ้องกล่าวหลังตัดสินว่า ที่ผ่านมากว่า 4 เดือนถูกสังคมรอบข้างตำหนิ และต้องเสียเงินและเวลาในการเดินทางมาขึ้นศาล แต่ก็จะไม่ขอฟ้องกลับแต่อย่างใด เพราะเห็นเป็นเด็กอาจจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรืออาจเป็นเพราะการคึกคะนอง เพียงแต่อยากให้เด็กรับรู้ถึงผลของการเป็นเด็กเลี้ยงแกะเป็นอย่างไร
.
CR.ข่าว /ธีรยุทธ์ ชำนาญกอง- วันชัย ผิวอร่าม