.
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครนายก พาคณะสื่อมวลชนสำรวจเส้นทางการท่องเที่ยว สายประวัติศาสตร์ ล่องเรือชมความงดงามของ"แม่น้ำปราจีนบุรี"ต้นน้ำปบางประกง ณ บ้านบางพลวง อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี ซึ่งวิสาหกิจชุมชนแปรรูป"กก"ได้รวมตัวกันเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำหรับการนั้งเรือเที่ยวชมความงดงามของ"แม่น้ำปราจีนบุรี"และจำหน่ายสินค้าพื้นบ้านที่ขึ้น
ชื่อของที่นี่คือผลิตภัณฑ์แปรรูปจาก"กก"ที่จัดว่าเป็นสินค้ OTOP ที่สร้างรายได้ให้กับชุมชนแห่งนี้อย่างมากมาย สำหรับการล่องเรือเที่ยวชมความงดความของ"แม่น้ำปราจีนบุรี"จะเริ่มต้นขึ้นเรือกันที่ท่าเรือบ้านบางพลวง กลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูป"กก"จัดสถานที่ได้ดี มีที่จอดรถสะดวกสบาย ท่าเรือมีความปลอดภัยได้มาตราฐาน เรือสำหรับรับท่องเที่ยวนั้นเป็นเรือโบราณที่หาดูยาก ทางกลุ่มวิสาหกิจได้นำมาดัดแปลงและซ่อมแซมให้แข็งแรงและปลอดภัย เรือ 1 ลำสามารถรับนักท่องเที่ยวได้ 8 คน มีเสื้อชูชีพเซฟตี้ให้พร้อม สำหรับทริปการท่องเที่ยวชม"แม่น้ำปราจีนบุรี"จะมีเจ้าหน้าที่ของกลุ่มมานั้งบรรยายเรื่อง
ราวต่างๆที่เกี่ยวข้องกับสายน้ำและประวัติศาสตร์ต่างๆให้กับนักท่องเที่ยวได้ฟัง ไฮไลท์ของการล่องเรือมีด้วยกัน 3 จุดหลัก คือ 1 การแวะพักเพื่อรับทานอาหารที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชุมได้จัดเตรียมไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวกับอาหารที่หาทานได้ยากข้าวห้อใบบัวและผลไม้ตามฤดูกาลและสักการะอนุเสาวรีย์ย์สมเด็จพระเจ้าตากสิน ที่วัดบางคาง วัดบางคาง ตำบลรอบเมือง อำเภอเมืองปราจีนบุรี มีอายุประมาณ 140 ปี เป็นแหล่งประวัติศาสตร์ในท้องถิ่น ที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งที่เกี่ยวเนื่องกับสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายต่อกับสมัยธนบุรี คือ “วัดบางคาง” คำว่า บางคาง นั้น เป็นคำในภาษาจีนแต้จิ๋ว ออกเสียงเรียกเมืองปราจีน
ว่า “มั่งคั้ง” เวลาออกเสียงทับศัพท์กับภาษาไทยกลายเป็นคำว่า “บางคาง” ความสำคัญของบางคางนั้น สืบเนื่องมาจากสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ซึ่งขณะนั้นดำรงยศเป็นพระยาวชิรปราการ ได้ออกจากกรุงศรีอยุธยามาทางทิศตะวันออก ถึงบ้านพรานนก จึงให้บรรดาทหารไปจัดหาเสบียงมาไว้ในกองทัพ ได้พบกับทหารพม่าที่รักษาเมืองปราจีนยกพลสวนทางมาจากบางคาง ได้เกิดปะทะกันขึ้น จากนั้นจึงยกพลไปทางนาเริ่งและเมืองนครนายก ผ่านด่านบ้านกบแจะต่อมาคือเมืองปจันตคาม ข้ามลำน้ำเมืองปราจีนบุรีไปตั้งพักอยู่ทางชายดงศรีมหาโพธิ ฟากตะวันออก นอกจากนี้ “บ้านบางคาง แขวงเมืองปราจีน” ดังกล่าว มี
ข้อสันนิษฐานว่า น่าจะเป็นที่ตั้งของเมืองปราจีนแต่เดิม เหตุเพราะมีการสำรวจพบซากเมือง วัตถุโบราณและร่องรอยอื่นๆ อยู่บริเวณใกล้ๆ วัดบางคาง แม้ว่าร่องรอยต่างๆ จะถูกทำลายลงไปบ้าง อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นมีการย้ายเมืองมาตั้งใหม่อยู่บริเวณกองกำกับการตำรวจภูธรเมืองปราจีนบุรีในปัจจุบัน ซึ่งอยู่ห่างจากแม่น้ำปราจีน ประมาณ 200 เมตร และยังคงเห็นร่องรอยของซากกำแพงเมืองหลงเหลืออยู่ สำหรับ วัดบางคาง ตั้งอยู่หมู่ที่ 5 ตำบลรอบเมือง อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี เคยเป็นที่ตั้งค่ายพักแรม
กองทัพสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และปัจจุบันมีพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ประดิษฐานอยู่เพื่อเป็นอนุสรณ์ โดยหน่วยงานราชการในจังหวัดปราจีนบุรีจะได้กระทำพิธีถวาย ราชสักการะพระบรมราชนุสาวรีย์ ในวันที่ 28 ธันวาคม ณ วัดบางคาง แห่งนี้เป็นประจำทุกปี หลังจากรับประทานอาหารและสักการะสมเด็จพระเจ้าตากสินเสร็จสิ้น ก็จะลงเรือต่อไปยังไฮไลท์ที่ 2 ไปดูฝูงค้างคาวแม่ไก่ที่กำลังพักผ่อน ห้อยหัวกันเต็มต้นไม้สองฝังแม่น้ำปราจีนบุรี เป็นภาพที่หาชมได้ยาก สร้าง
ความประทับใจให้แก่สื่อมวลชนที่เดินทางมา ไฮไลท์ที่ 3 คือสถานที่จริงที่เกิดการลอบปลงพระชนม์สมเด็จพระเจ้าตากสิน โดยข้าศึกนั้นดักซุ่มโจมตีทางน้ำหมายเอาชีวิต สุดท้ายโดนจับตัดคอในสถานที่นั้นปัจจุบันยังมีล่องรอยของศาลและสถานที่แห่งนั้นซึ่งตั้งอยู่ริมน้ำ สำหรับประวิติความเป็นมา"แม่น้ำปราจีนบุรี"ประกอบด้วยลำน้ำสาขาคือ"แม่น้ำพระปรง" "แควหนุมาน" และ"แม่น้ำประจันตคาม"
1.แม่น้ำพระปรง
เกิดจากการไหลมาบรรจบกันของลำคลองสองสายคือ คลองพระปรง และคลองพระสะทึง คลองพระปรง เป็นลำคลองที่เป็นต้นกำเนิดสำคัญของแม่น้ำพระปรง มีความยาวประมาณ ๓๒ กิโลเมตร มีกำเนิดจากเทือกเขาในเขตติดต่อสามจังหวัดคือ อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา และอำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ คลองพระสะทึง เป็นสาขาสำคัญของแม่น้ำพระปรง ตอนต้นจะไหลจากทิศใต้ไปทิศเหนือ ผ่านอำเภอเขาฉกรรจ์ ถึงทางใต้ของอำเภอเมือง ฯ แล้วไหลไปบรรจบคลองพระปรงที่ไหลมาทางด้านเหนือ คลองพระสะทึงมีความยาวมาก มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาจันทบุรี และภูเขาในเขตอำเภอวังน้ำเย็น
2. แควหนุมาน
เกิดจากห้วยเขาขาด เขากำพร้า ในเขตอำเภอนาดี และเขากำแพง เขารังในเขตอำเภอกบินทร์บุรี ไหลมาบรรจบกันที่บ้านสะพานหิน อำเภอกบินทร์บุรี เป็นแควหนุมาน แล้วไหลไปบรรจบกับคลองพระปรง ในเขตอำเภอเดียวกันเป็นแม่น้ำบางปะกง
3 .ลำน้ำประจันตคาม
ลำน้ำประจันตคาม เป็นแควขนาดเล็ก ต้นน้ำเกิดจากทิวเขาบรรทัดไหลไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ไปบรรจบลำน้ำปราจีนที่บ้านกระแจะ มีความยาวประมาณ ๔๕ กิโลเมตร ปากคลองประจันตคามอยู่ฝั่งตรงข้าม ไหลมา“กบแจะ”แม่น้ำปราจีนบุรี (บางปะกง) ที่ขวางข้างหน้า แล้วไหลจากขวาไปซ้ายออกอ่าวไทย
สุดท้ายปลายทางของการเดินทางของการล่องเรือเที่ยวชม"แม่น้ำปราจีน"ได้มาจอดขึ้นฝั่งที่หน้าวัดแก้วพิจิตร สถานที่ยอดนิยมของชาวปราจีนบุรีและนักท่องเที่ยว ที่มักแวะเวียนกันมาชมความงดงามของพระอุโบสถ สักการะหลวงพ่ออภัย และให้อาหารปลาบนแพรริมแม่น้ำที่ยังใสสะอาดพ.ศ. 2422 นางประมูล โภคา ผู้เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ได้สร้างวัดแก้วพิจิตรแห่งนี้ขึ้น ต่อมาเจ้าพระยาอภัยภูเบศรได้สร้างพระอุโบสถหลังใหม่พร้อมพระประธาน "ปางอภัยทาน" เพื่อทดแทนหลังเดิมที่ทรุดโทรม ตกแต่งด้วย
สถาปัตยกรรมที่ผสมผสานทั้งศิลปะไทย จีน ยุโรป และเขมร พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานชื่อพระประธาน "ปางอภัยทาน" นี้ว่า "หลวงพ่ออภัยวงศ์ หรือ หลวงพ่ออภัย" เพื่อเป็นเกียรติแก่เจ้าพระยาอภัยภูเบศรผู้สร้างพระอุโบสถหลังนี้ผู้คนส่วนมากที่มาสักการะหลวงพ่ออภัยเชื่อกันว่าพรที่ประสบความสำเร็จเมื่อมาสักการะคือจะได้รับการให้อภัย ไม่มีศัตรู ทำให้จิตใจสงบขึ้น
พื้นที่ฝั่งติดริมแม่น้ำของวัดเป็นเขตอภัยทาน ทางวัดจัดทำแพไว้อำนวยความสะดวกสำหรับผู้ที่มาให้อาหารปลา
อีกจุดที่น่าสนใจคือสถานที่ตรงข้ามด้านหน้าโบสถ์ทางทิศตะวันออก เป็นอาคารรูปสถูปโดม ศิลปะกรีกโรมันดูสวยแปลกตา ทางวัดจัดเป็นพิพิธภัณฑ์มีชีวิต ภายในมีหินลายพระหัตถ์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี รวมถึงภาพถ่าย สิ่งของเครื่องใช้ในอดีตไว้ให้ชนรุ่นหลังได้ศึกษา หลังจากเสร็จสิ้นการล่องเรือเที่ยวชมแม่น้ำปราจีนบุรี การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครนายก ได้พาคณะสื่อมวลชนเดินทางกลับ
.
มิสเตอร์ที