จำนวนผู้เข้าชมวันนี้

วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2561









ททท.ภูมิภาค ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พาคณะสื่อมวลชน ลงพื้นที่"งานประเพณีบุญหลวงและการละเล่นผีตาโขน"ที่ยิ่งใหญ่ !!!ของ อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย วันที่ 17 มิถุนายน 61 นายสมชาย ชมภูน้อยผอ.ททท.ภูมิภาค ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้พาคณะสื่อมวลชนเข้าร่วมงาน เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์งานและเพื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของภาคตะวันออกเฉียงเหนือให้เป็นที่รู้จักกับ 12 เมืองรองต้องไป ในโครงการ"เก๋ายกก๊วน ชวนเที่ยวไทย" สำหรับงาน บุญหลวง” เป็นการทำบุญที่รวมบุญประเพณี ประจำเดือนต่าง ๆ ใน "ฮีตสิบสอง” ของภาคอีสาน(คำว่า "ฮีตสิบสอง” หมายถึง งานบุญประเพณีประจำเดือนต่าง ๆ ในหนึ่งปี) โดยรวมเอาบุญ"พระเวส” หรือ "บุญพระเวสสันดร” ซึ่งนิยมทำในเดือนสี่และ"บุญบั้งไฟ” นิยมทำบุญในเดือนหกรวมเข้าด้วยกัน รวมจัดงานเป็น
.
งานบุญเดียวกัน แต่เลื่อนมาทำในเดือนเจ็ดหรือเดือนแปด การกำหนดการจัดงาน "ประเพณีบุญหลวง” ที่วัดโพนชัย อำเภอด่านซ้าย จะกำหนดวันภายหลังจากที่มีพิธีบวงสรวงอารักษ์หลักเมืองที่ "หอหลวง” และ "หอน้อย” ขณะที่กระทำพิธีบวงสรวงวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าในอดีต โดยจะเข้าทรงร่างผ่าน "เจ้ากวน” ("เจ้ากวน” คือ พิธีกรรมความเชื่อที่ผู้ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการอัญเชิญวิญญาณเจ้าในอดีตเข้าร่างหรือเข้าทรง เป็นผู้กระทำพิธี) โดยจะมีรับสั่งอนุญาตกำหนดวันในการจัดงานประเพณีบุญหลวงและการละเล่นผีตาโขนจะกระทำการขออนุญาตกำหนดวันจัดงานพิธีที่ "หอน้อย”งานบุญประเพณีบุญหลวงจัดขึ้นที่วัดโพนชัย จะเว้นไม่กระทำไม่ได้มีความเชื่อว่าปีใดไม่กระทำจะเกิดเภทภัยต่าง ๆ เกิดขึ้น
.
กับชุมชนชาวด่านซ้าย หลังจากที่มีกำหนดการจัดงานในสมัยก่อนที่จะมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวนิยมจัดงาน ๒ วัน คือ วันรวม (วันโฮม) ซึ่งจัดการแสดงการละเล่นผีตาโขนและแห่ขบวนเผวสเข้าเมือง วันที่ ๒ ของงานจะมีการฟังเทศน์มหาชาติ เป็นเสร็จพิธี เมื่อมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวขึ้นประมาณปี พ.ศ. ๒๕๓๕ ทางจังหวัดเลยร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้ขออนุญาตจาก "เจ้ากวน” เพิ่มวันในการจัดงานบุญหลวงเพิ่มเป็น ๓ วัน โดยวันแรกเป็นวันรวม (วันโฮม) ประชาชนจากหมู่บ้านต่าง ๆ มาร่วมงานพิธีตั้งแต่เช้ามืด เวลาประมาณ ๐๓.๐๐-๐๕.๐๐ น. กระทำพิธีอัญเชิญอุปคุตจากห้วยน้ำหมันเข้ามาประดิษฐานอยู่ที่เหมาะสมภายในวัดโพนชัย มีการบวงสรวงสักการะอุปคุตเสร็จพิธี ในตอนสายจะมีการนำขบวน "ผีตาโขนใหญ่”("ผีตาโขนใหญ่” มีอยู่สองตนเป็นชายหนึ่งตนหญิงหนึ่งตนทำด้วยโครงสร้างจาก
.
ไม้ไผ่มีขนาดใหญ่โต ทำให้คนสามารถเข้าไปอยู่ข้างในตัวผีได้ โดยผู้ที่จะสร้างผีตาโขนขนาดใหญ่ จะต้องทำพิธีแต่งขันดอกไม้ ขันห้า และขันแปด มีดอกไม้และเทียนอย่างละ๕ คู่ และ ๘ คู่ ทำการขอขมาและขออนุญาตต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก่อนจึงเริ่มทำโครงไม้ไผ่จากส่วนหัวก่อนและทำลำตัว หาผ้ามุ้ง ผ้าห่ม หรือหาเศษผ้าเก่า ๆ มาสวมใส่ห่อหุ้มลำตัว แต่งหน้าตาให้หน้ารู้ว่าเป็นหญิงหรือชายและหาอุปกรณ์มาทำเป็นอวัยวะเพศให้ผีทั้งสองตน) แห่ขบวนจากบ้านช่างที่ทำผีตาโขนใหญ่ไปบ้าน "เจ้ากวน” โดยมีขบวนฆ้อง กลอง ฉิ่งฉาบตีเป็นที่สนุกสนานหยอกล้อกันผู้คนที่ออกมาร่วมงาน "เจ้ากวน” จะออกมาตอนรับพร้อมกับ "นางเทียม” หรือ "เจ้าแม่นางเทียม” ("เจ้าแม่นางเทียม” หรือ "นางเทียม” คือ พิธีกรรม
.
ความเชื่อที่ผู้ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการอัญเชิญวิญญาณเจ้าในอดีตเข้าร่างหรือเข้าทรง เป็นผู้หญิงเป็นร่างทรง) มีการเลี้ยงเหล้าข้าวปลาอาหารจนเป็นที่อิ่มนำสำราญแล้ว จึงพากันลา "เจ้ากวน” และ "เจ้าแม่นางเทียม” ตั้งขบวนแห่ไปที่วัดโพนชัย แห่ขบวนรอบวัดโพนชัยครบ ๓ รอบ ขบวนผีตาโขนใหญ่และผีตาโขนน้อยจะพากันแห่แยกย้ายขบวนไปตามบ้านต่าง ๆ ขอเหล้าปลาอาหารจากชาวบ้านและทำการหยอกล้อผู้คนที่พากันมาร่วมงานพร้อมทั้งนักท่องเที่ยว โดยในวันนี้เองจะมีผีตาโขนต่าง ๆ จะออกมาเป็นจำนวนมากเมื่อถึงเวลาอันเหมาะสมขบวนผีต่าง ๆ จะกับมารวมที่วัดทำการเล่นสนุกสนานกับผู้คนที่มาร่วมงานบุญ อันเป็นการเฉลิมฉลองงานบุญหลวงและการละเล่นผีตาโขนในวันแรก
.
ในวันที่สองของงานบุญหลวงและการละเล่นผีตาโขนขบวนผีตาโขนน้อยใหญ่จะเริ่มเล่นไปตามบ้านเรือนต่าง ๆ ตั้งแต่เช้ามืด เมื่อถึงเวลาอันเหมาะสมประชาชนผู้เข้าร่วมงานและผีตาโขนทั้งหลายจะไปรวมกัน ณ จุดที่จะกระทำพิธีอัญเชิญพระเวสสันดรและพระนางมัทรีเข้าเมือง โดยสมมุติให้วัดโพนชัยเป็นเมืองสีพีนคร ซึ่งการแห่พระเวสสันดรเข้าเมืองนี้ ได้เค้าโครงมาจากเรื่องพระเวสสันดรชาดกในกัณฑ์ที่ ๑๓ ในการกระทำพิธีซึ่งจะมีการละเล่นกันอย่างครึกครื้น เป็นวันที่มีผีตาโขนน้อยใหญ่ออกมาเล่นหยอกล้อกับผู้คนเป็นที่สนุกสนาน หลังจากร่วมขบวนแห่ในงานบุญดังกล่าว ผีตาโขนน้อยใหญ่จะนำเครื่องเล่นผีตาโขนหน้ากาก และอุปกรณ์การละเล่นผีตาโขนต่าง ๆ ไปล่องที่ลำน้ำหมัน "การนำเครื่องเล่นผีตาโขนน้อยใหญ่ไปล่องลำน้ำหมันเป็นความเชื่อว่า เป็นการลอยความไม่ดีไม่งามที่บรรดาผีบรรดาผีตาโขนน้อยใหญ่
.
นำมาให้ลอยไปกับลำน้ำหมัน”เป็นการเสร็จการละเล่นผีตาโขนน้อยใหญ่ ตอนกลางคืนของงานจะมีการฟังเทศน์ตลอดคืน ในวันที่สามของงานในตอนเช้าประชาชนชาวด่านซ้ายมาร่วมกันทำบุญที่วัดโพนชัย ร่วมกันฟังเทศน์ฟังธรรมเป็นอันเสร็จสิ้นงานประเพณีบุญหลวงและการละเล่นผีตาโขนของชาวด่านซ้าย
เมื่อกล่าวถึงการละเล่นผีตาโขน "ผีตาโขน” เป็นคำที่เรียกชื่อ การละเล่นชนิดหนึ่ง ที่ผู้เล่นต้องสวมหน้ากากที่วาดหรือแต้มให้หน้ากลัว โดยชุดแต่งผีตาโขนใช้ผ้าเก่า ผ้ามุ้ง หรือใช้เศษผ้านำมาห่อหุ้มร่างกายให้มิดชิด ซึ่งจะร่วมเข้าขบวนแห่และแสดงท่าทางต่าง ๆ ระหว่างที่มีประเพณีบุญหลวง เป็นการละเล่นที่มีเฉพาะในท้องที่อำเภอด่านซ้ายเท่านั้น คำว่า "ผีตาโขน” ความหมายเดิมไม่แน่ชัดเท่าที่สืบทราบแต่เพียงว่า เป็นผีที่มีลักษณะรูปร่างหน้าตาน่าเกลียดน่ากลัวจากการที่สอบถามร่างทรง "เจ้ากวน”
.
ผีตาโขนมาจากคำว่า"ผีตามคน” คนเข้ามาขออาหาร ขอส่วนบุญในเมืองมนุษย์ทำการเล่นหยอกล้อผู้คนขอข้าวปลาอาหารแล้วก็จะพากันกลับยังถิ่นที่อาศัยของตน ในการเล่น "ผีตาโขน” ของชาวอำเภอด่านซ้ายมีความเชื่อว่า ประการแรก เล่นเพื่อถวายดวงวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่มีอำนาจในการปกครองสูงสุดในเมืองด่านซ้าย ประการที่สองเล่นเพื่อร่วมขบวนแห่พระเวสสันดรเข้าเมือง อันเป็นความเชื่อทางพุทธศาสนา ประการที่สาม เล่นเพื่อร่วมขบวนในการแห่บุญเดือนหก (บุญบั้งไฟ) และการแห่ขอฝน ประการที่สี่ เล่นเพื่อความสนุกสนาน ประการสุดท้าย เล่นเพื่อให้สิ่งที่ไม่ดีที่เคยกระทำด้วยกาย วาจา ใจ รวมถึงโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ให้ติดไปกับผีตาโขน โดยการนำไปล่องลำน้ำหมัน เป็นการเสร็จสิ้นพิธีบุญหลวงและการละเล่นผีตาโขน หลังจากเสร็จจากการเยี่ยมชม"งานประเพณีบุญหลวงและการละเล่นผีตาโขน" นายสมชาย ชมภูน้อย ผอ.ททท.ภูมิภาค ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้พาคณะสื่อมวลชนกลับ
.
ข่าว/มิสเตอร์ที